เกษตรจังหวัดยะลา จัดงานวันรณรงค์การขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหิน พืชอัตลักษณ์ประจำถิ่น สร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหินในพื้นที่จังหวัดยะลา
เกษตรจังหวัดยะลา จัดงานวันรณรงค์การขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหิน พืชอัตลักษณ์ประจำถิ่น สร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหินในพื้นที่จังหวัดยะลา
กล้วยหิน เป็นพืชอัตลักษณ์ประจำถิ่นที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographic Indicator : GI) ในชื่อ กล้วยหินบันนังสตา เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม2554 รวมถึงยังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ สามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย สร้างรายได้ให้กับเกษตรจังหวัดยะลาเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหินในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้เผชิญกับโรคเหี่ยวในกล้วยหิน ทำให้พื้นที่การปลูกกล้วยหินและผลผลิตลดลงเป็นอย่างมาก นายอนุชา ยาอีด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า โรคเหี่ยวกล้วย มีสาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย พบระบาดรุนแรงในปี 2560 – 2562 ลักษณะอาการของโรคคือ ใบธง (ใบอ่อน) แสดงอาการเหี่ยวใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ต่อมาใบอื่น ๆ แสดงอาการเหี่ยวเปลี่ยนเป็นเหลือง เมื่อตัดดูลักษณะภายในลำต้นเทียมจะเห็นท่อน้ำท่ออาหารเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ปลีกล้วยแคระแกร็น และหากติดผลๆจะมีลักษณะเล็ก ลีบ เนื้อภายในจะเป็นสีน้ำตาลหรือดำ ถ้าอาการรุนแรงจะยืนต้นตาย ไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสงขลา สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานวิชาการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันการศึกษาในพื้นที่ ตลอดจนเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหิน ร่วมกันจัดทำแปลงทดสอบเพื่อหาแนวทางการป้องกันและกำจัดโรค การอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรด้านการจัดการโรคเหี่ยวในกล้วยหิน ตลอดจนการสร้างการรับรู้ผ่านการจัดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้การจัดการโรค ในงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ งานวัน Field day ออกข่าวประชาสัมพันธ์ การจัดการโรคผ่านสื่อมวลชน ได้แก่ สถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
นายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรปลูกกล้วยหินในพื้นที่จังหวัดยะลา จำนวน 2,772 ไร่ พบปัญหาการระบาดของโรคเหี่ยวในกล้วยหิน จำนวน 1,509 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 46.06 ของพื้นที่ปลูกทั้งหมด ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา ได้ดำเนินการจัดการแก้ปัญหาการระบาดของโรคเหี่ยวในกล้วยหินโดยการจัดทำแปลงเรียนรู้โรคเหี่ยวในกล้วยหินครบทั้ง 8 อำเภอจำนวน 15 แปลง พื้นที่ 31.25 ไร่ การอบรมเกษตรกรด้านการจัดการโรคเหี่ยวในกล้วยหิน ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 1,000 ราย การจัดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้การจัดการโรคเหี่ยวนกล้วยหินผ่านกิจกรรมและการจัดงานต่าง ๆ ของสำนักงาน การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์คำแนะนำป้องกันและกำจัดโรคเหี่ยวในกล้วยหิน พร้อมประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อท้องถิ่นแล้ว จำนวน 2,000 ฉบับ การสนับสนุนต้นพันธุ์ปลอดโรคจำนวนกว่า 2,000 ต้น จากการที่สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลาได้เข้าไปส่งเสริมสนับสนุน และถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร ผลปรากฎว่าแปลงกล้วยหินได้รับการฟื้นฟู และมีปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่สูงขึ้น โดยในปี 2565 ได้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่1,163 กิโลกรัมต่อไร่ และสามารถลดพื้นที่การระบาดได้จำนวนกว่า 2,100 ไร่
นายกัสมัน ยะมาแล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา ได้จัดงานวันรณรงค์การขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหินจังหวัดยะลา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหินเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรเกิดความมั่นใจในหลักวิชาการที่นำมาใช้ในการส่งเสริมการปลูกกล้วยหินในพื้นที่ใหม่และพื้นที่ซึ่งเคยมีการระบาดของโรคเหี่ยวกล้วยหิน สามารถที่จะผลิตกล้วยหินมีคุณภาพออกสู่ตลาดได้ และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการแปรรูปกล้วยหิน ซึ่งความรู้ทางวิชาการที่นำมาถ่ายทอด เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของหน่วยงานวิชาการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันการศึกษา และเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหิน ที่ได้ร่วมกันหาแนวทางป้องกัน รักษา และฟื้นฟูแปลงกล้วยหินให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้แม้ในพื้นที่ยังมีการระบาดของโรคเหี่ยวกล้วยหิน กิจกรรมภายในงานมีการให้บริการนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับโรคเหี่ยวในกล้วยหิน การจัดการแปลงปลูกกล้วยหินปลอดโรค 6 ขั้นตอน การใช้สารชีวภัณฑ์ในการควบคุมป้องกันโรค การจัดแสดงผลผลิตกล้วยหิน อาหารจากกล้วยหินและกล้วยหินแปรรูป และการมอบหน่อพันธุ์กล้วยหินปลอดโรคแก่ตัวแทนเกษตรกร ซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหินและผู้ที่สนใจ เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 100 คน
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=77073