ม.อ.ปัตตานี ผนึกกำลังสื่อท้องถิ่น จัด “PSU & Media Friendship” สร้างความร่วมมือ-แลกเปลี่ยนมุมมองการสื่อสาร
ม.อ.ปัตตานี ผนึกกำลังสื่อท้องถิ่น จัด “PSU & Media Friendship” สร้างความร่วมมือ-แลกเปลี่ยนมุมมองการสื่อสาร
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ศูนย์สื่อสารองค์กรและกิจการนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้จัดกิจกรรม “PSU & Media Friendship: มิตรไนท์ปาร์ตี้” ณ ร้านบลูเบิร์ด อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภายใต้โครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างมหาวิทยาลัยกับสื่อมวลชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสื่อสารของมหาวิทยาลัยในมิติต่าง ๆ โดยคาดหวังว่าจะเป็นเวทีสำคัญในการรับฟังมุมมองจากผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน ซึ่งถือเป็นภาคีเครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สังคมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายประเภทของสื่อ รวมทั้งสิ้น 34 คน จาก 4 กลุ่มประเภทของสื่อ/หน่วยงาน อันประกอบด้วยสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ สถานีวิทยุ-โทรทัศน์ และหน่วยงานด้านการสื่อสารในพื้นที่ ซึ่งต่างมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนข้อมูลข่าวสารและสร้างความเข้าใจอันดีต่อสังคม กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี กล่าวต้อนรับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรุณีวรรณ บัวเนี่ยว รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพันธกิจสังคม วิทยาเขตปัตตานี กล่าวขอบคุณผู้แทนสื่อมวลชนจากหลากหลายสำนักข่าว และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรภาคย์ ไมตรีพันธ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพันธกิจสังคม วิทยาเขตปัตตานี ผู้นำกิจกรรมสะท้อนคิด เพื่อพัฒนากลยุทธ์ด้านการสื่อสารองค์กร ม.อ.ปัตตานี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารที่ร่วมกิจกรรม อาทิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มนทิรา ลีลาเกรียงศักดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาเขตปัตตานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปาริชาติ เบ็ญฤทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาองค์กรและความยั่งยืน วิทยาเขตปัตตานี อาจารย์วรัญญา เต็มรัตน์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ วิทยาเขตปัตตานี นายบรรจง เฉลิมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาเขตปัตตานี พร้อมบุคลากรศูนย์สื่อสารองค์กรและกิจการนานาชาติ ร่วมกิจกรรม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่มหาวิทยาลัยได้รับจากการจัดโครงการ ‘สื่อมวลชนสัมพันธ์’ ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างความสัมพันธ์อันดี แต่คือการได้รับฟัง ‘มุมมอง’ ของสื่อมวลชนที่มีต่อบทบาทและภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง มุมมองที่หลากหลายจากสื่อ ทั้งในด้านบวกและข้อเสนอแนะ ทำให้มหาวิทยาลัยสามารถมองเห็นจุดแข็ง จุดที่ควรพัฒนา และโอกาสใหม่ ๆ ในการสื่อสารกับสังคมภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มหาวิทยาลัยมองว่าสื่อมวลชนไม่ใช่เพียงผู้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร แต่คือ ‘หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์’ ที่สามารถร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจของมหาวิทยาลัยสู่สังคมได้อย่างมีพลังมากขึ้น โดยเฉพาะในบริบทของพื้นที่ชายแดนใต้ที่ต้องอาศัยความเข้าใจ ความร่วมมือ และการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยจะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากสื่อมวลชน มาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อกำหนดแนวทางการสื่อสารองค์กรที่สอดคล้องกับความต้องการของสื่อ และสามารถตอบโจทย์ต่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มุ่งมั่นขับเคลื่อนบทบาทของตนในฐานะ “มหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม” ที่เป็น กลไกหลักในการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ชายแดนบนฐานพหุวัฒนธรรม โดยผ่านภารกิจด้านการศึกษา งานวิจัย และบริการวิชาการที่ตอบโจทย์ของพื้นที่ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน พัฒนาทุนมนุษย์ และร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่สังคมในทุกมิติ ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น การลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดกิจกรรมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบในฐานะมหาวิทยาลัยที่ใส่ใจต่อโลกและประชาชน
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีความตั้งใจที่จะเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อพื้นที่” อย่างแท้จริง และเราเชื่อว่า ความร่วมมือกับสื่อมวลชนคือหนึ่งในกลไกสำคัญ ที่จะทำให้เราสามารถสื่อสารภารกิจ งานวิจัย และบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยให้ไปถึงประชาชนอย่างสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงในนามของมหาวิทยาลัย ผมขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ให้เกียรติมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับสื่อมวลชนจะเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=97459