จ.สงขลา จัดใหญ่ “เทศกาลอาหารพื้นถิ่นสงขลา เขา ป่า โหนด นา เล” เดินหน้าผลักดันเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร สู่เวทีโลก
จ.สงขลา จัดใหญ่ “เทศกาลอาหารพื้นถิ่นสงขลา เขา ป่า โหนด นา เล” เดินหน้าผลักดันเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร สู่เวทีโลก
วันนี้ (28 สิงหาคม 2568) ณ ลานกิจกรรมข้างศูนย์การค้าไดอาน่า คอมเพล็กซ์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายจิรวัตร์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิด “งานเทศกาลอาหารพื้นถิ่นสงขลา เขา ป่า โหนด นา เล” ภายใต้โครงการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์วัฒนธรรมอาหารวิถีถิ่นสงขลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งานในครั้งนี้จัดขึ้นอย่างคึกคัก โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่น พร้อมทั้งยกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดสงขลาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นถิ่นจากชุมชนในพื้นที่ 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวสงขลา โชว์การจัดจานอาหาร (Food Plating) ที่ผสมผสานศิลปะเข้ากับวัฒนธรรมการกินอย่างลงตัว รวมถึงกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและเยาวชนในท้องถิ่น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวในพิธีเปิดว่า จังหวัดสงขลาได้ร่วมกันผลักดันแนวทาง “เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร” มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดแข็งจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องถิ่น โดยเฉพาะทะเลสาบสงขลาซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญ ตลอดจนภูมิปัญญาและองค์ความรู้ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้สงขลาได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network) ในปีนี้
“นี่คือก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาเมืองสงขลาให้กลายเป็นเมืองสร้างสรรค์ระดับสากล ที่สามารถใช้ทุนวัฒนธรรมมาสร้างเศรษฐกิจ สร้างงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน” นายจิรวัตร์กล่าว
ทั้งนี้ จังหวัดสงขลายังได้กำหนดแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกระดับ การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมทั้งส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่นักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ เพื่อให้วัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นยังคงมีชีวิตและได้รับการต่อยอดต่อไปในอนาคต
เทศกาลในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาสัมผัสกับเสน่ห์ของอาหารพื้นถิ่นและวิถีชีวิตของชาวสงขลาอย่างใกล้ชิด
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=101035