กรมชลประธาน จัดประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว จังหวัดสงขลา
กรมชลประธาน จัดประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว จังหวัดสงขลา
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอสะเดา นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวในเชิงนโยบายการดำเนินการในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ถือเป็นลุ่มน้ำค่อนข้างใหญ่มีพื้นที่ลุ่มน้ำ 2,379 ตร.กม.เกิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ความยาวรวม 154 กม. ปริมาณน้ำที่ตกในลุ่มน้ำ 1,200 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ปัญหาที่พบ 2 ปัญหา เรื่องน้ำแล้ง และวิกฤตน้ำท่วมที่เกิดบ่อยครั้งในทุกปี จึงต้องแก้ไขปัญหา ปัญหาน้ำท่วมที่เห็นเด่นชัดคือในพื้นที่อำเภอสะเดา บ้านพรุ คลองหวะ และเทศบาลนครหาดใหญ่
การแก้ไขปัญหาของกรมชลประทานยึดหลักการ ต้นน้ำเก็บกัก กลางน้ำหน่วง และปลายน้ำเร่งการระบาย พื้นที่ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภามีปริมาณน้ำท่ารายปีเท่ากับ 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร นับว่ามีขนาดใหญ่กว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ซึ่งมีความจุประมาณ 900 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ตามแผนแม่บทฯ
ในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภามีการดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ได้แก่ อ่างฯ สะเดา อ่างฯ คลองหลา อ่างฯ คลองจำไหร รวมความจุประมาณ 85 ล้าน ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นเพียงร้อยละ 6 ของปริมาณน้ำทั้งหมดในลุ่มน้ำ ซึ่งยังไม่เพียงพอในอนาคตมีแนวทางในการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำที่มีศักยภาพเพื่อช่วยตัดยอดน้ำในลำน้ำสาขาต่างๆ 9 โครงการ ซึ่งมีอ่างฯ คลองแก้ว เป็น 1 ใน 9 โครงการ โดยมีเป้าหมายการพัฒนาเพื่อเก็บกักน้ำในลุ่มน้ำให้ได้ร้อยละ 20 ของน้ำปริมาณน้ำท่า หรือประมาณ 240 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับพื้นที่อำเภอสะเดาที่มีปัญหาอุทกภัย แม้ต้นน้ำของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา มีอ่างฯ สะเดา สามารถเก็บกักน้ำได้ 56 ล้าน ลบ.ม. แต่บริเวณพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ เช่น คลองหลำโส๊ะ คลองห้วยคู คลองแม่แมะ มีปริมาณน้ำเกินความสามารถในการรองรับของลำน้ำ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนโดยเฉพาะตัวเมืองอำเภอสะเดา และบ้านน้ำลัด ด้วยความสามารถของคลองสะเดาที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงมีแผนงานแก้ไขปัญหาโดยคลองบายพาส ขุดขยายคลองตาคลี เพื่อระบายน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายคลองสะเดา ในการบรรเทาปัญหาน้ำท่วมต่อ ชุมชนเมืองสะเดา และบ้านน้ำลัด
พื้นที่ตอนกลางของลุ่มน้ำอู่ตะเภา คลองอู่ตะเภาบางพื้นที่เป็นคลองคอด บางพื้นที่คดเคี้ยว และแคบมาก ในช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำมากจึงทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง โดยบริเวณบ้านพรุและทุ่งลุง แนวทางในการแก้ไขปัญหาทั้งคลองอู่ตะเภาตอนบนและตอนกลาง โดยการขุดลอกเอาตะกอนดินออกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำคลองอู่ตะเภาไม่น้อยกว่า 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดการล้นตลิ่ง รวมถึงแผนงานในการก่อสร้างแก้มลิงเก็บกักน้ำ 10 ล้าน ลบ.ม. เพื่อช่วยหน่วงน้ำในพื้นที่ พื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำอู่ตะเภา เคยเกิดอุทกภัยรุนแรงในปี พ.ศ. 2543 2553 และ 2567 การป้องกันเมืองเทศบาลหาดใหญ่ โดยการระบายน้ำลงคลอง ร.1 ประมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและระบายลงคลองอู่ตะเภาประมาณ 463 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในตอนล่างจะมีเครื่องมือในการบริหารจัดการจึงไม่น่ากังวล
สำหรับอ่างฯ คลองแก้ว ถือเป็นโครงการมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนโครงการ โดยอ่างฯ คลองแก้วจะเป็นอ่างเก็บน้ำแห่งที่ 4 ในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา และกรมชลประทานพร้อมที่ผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ในพื้นที่
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=101291