|

กรมส่งเสริมการเกษตร โดย สสก.5 สงขลา จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การวิเคราะห์ความเสี่ยง ด้านการเกษตร บูรณาการหน่วยงานจัดทำหลักสูตรพัฒนาอาชีพการเกษตรพื้นที่ชายแดนภาคใต้

กรมส่งเสริมการเกษตร โดย สสก.5 สงขลา จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การวิเคราะห์ความเสี่ยง ด้านการเกษตร บูรณาการหน่วยงานจัดทำหลักสูตรพัฒนาอาชีพการเกษตรพื้นที่ชายแดนภาคใต้

          วันที่ 15 มกราคม 2568 สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา งานส่งเสริมการเกษตร ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ศพท.) จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านการเกษตรในด้านต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ความเสี่ยงด้านการเกษตรในพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกมิติ และระดมความคิดเห็นจัดทำหลักสูตรการพัฒนาอาชีพการเกษตรที่เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ผู้เข้าร่วมเวทีประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส หน่วยงานภาคีเครือข่ายในงานส่งเสริมการเกษตร เกษตรกรต้นแบบ ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ภาคเอกชน ภาคประชาชน และสถาบันการศึกษา จำนวนกว่า 30 คน ณ อาคารฝึกอบรมอาชีพด้านการเกษตร ‘หอมกลิ่นลองกอง’ สำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส                   นายภูวเดช วุฒิวงศ์วัฒ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา
กล่าวว่า การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านการเกษตร ครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ความเสี่ยงด้านการเกษตรในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ครอบคลุมในทุกมิติ เช่น ผลิตภาพการผลิต การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเกษตร รูปแบบการเกษตรและบริการทางการเกษตรที่เปลี่ยนแปลงไป สังคมเกษตรกรรม สภาพปัญหา ความท้าทาย และโอกาส โดยนำข้อมูลที่ได้ไปออกแบบหลักสูตรการอบรมเกษตรกรในพื้นที่ ให้มีความพร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และการพัฒนาอาชีพการเกษตรที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ตรงกับความต้องการ และเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ควรจะเร่งส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้ทันต่อสถานการณ์
               นางสุนิภา คีรีนารถ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต ให้ข้อมูลว่า โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้ทรงวางแผนพัฒนาเพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยไม่แสวงหาผลกำไร ทรงเสนอแนะให้รัฐบาล หรือหน่วยงานราชการพิจารณาความเป็นไปได้ และร่วมดำเนินการเพื่อพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน  โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรพงศ์ จิระแพทย์ อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และคณะ เป็นวิทยากรกระบวนการ

            ซึ่งสรุปผลการจัดเวทีได้ดังนี้ สภาพสังคมเกษตรในพื้นที่เป็นลักษณะเกษตรผสมผสานเป็นส่วนใหญ่ และเกษตรเชิงเดี่ยวที่สำคัญ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ มีข้อจำกัดในเรื่องการเรียนรู้ได้ในระยะสั้น การทำเกษตรเป็นวิถีเกษตรกรรมตามแนวปฏิบัติจากรุ่นก่อน สำหรับประเด็นความท้าทาย และโอกาสที่ควรส่งเสริมนำไปจัดทำหลักสูตรการพัฒนาเกษตรกร คือองค์ความรู้การบริหารจัดการพืชแบบครบวงจร ตั้งแต่การเตรียมแปลงปลูก การปลูก การดูแลจัดการต้นพืช (การให้ปุ๋ย ให้น้ำ) การบริหารจัดการศัตรูพืช ตลอดจนถึงการเก็บเกี่ยว หลังการเก็บเกี่ยว โดยควรกำหนดเป็นหลักสูตรเฉพาะแต่ละชนิดพืช และประเด็นรองถัดมา คือหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่อง การตลาด การแปรรูป นวัตกรรม และเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่นำมาสนับสนุนพัฒนากิจกรรมการเกษตร เช่น การใช้แอพพลิเคชั่นพยากรณ์สภาพอากาศ การควบคุมระบบการให้น้ำแก่พืชตามความเหมาะสมของสภาพแวดล้อม หรือเกษตรอัจฉริยะ ตามลำดับ

           ทั้งนี้ โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัย แสวงหาแนวทางและวิธีการพัฒนาที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมภูมิสังคมของท้องถิ่น และเป็นสถานที่ที่นักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชน ใช้แลกเปลี่ยน สื่อสาร และถ่ายทอดความรู้ เป็นแบบจำลองของพื้นที่ที่มีการพัฒนาแบบผสมผสานทุกสาขาในลักษณะสหวิทยา และมีการบริหารที่เป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีการประสานการดำเนินงานที่มีเอกภาพ เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จในลักษณะของ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” โดย กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงานในส่วนงานส่งเสริมการเกษตร เพื่อนำองค์ความรู้ขยายผลไปสู่ประชาชนในหมู่บ้านรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และประชาชนผู้สนใจทั่วไป

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=94064

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us