คณะแพทย์ ม.อ. เดินหน้าจัด “แพทย์ ม.อ.สัญจร” ลงพื้นที่ตรวจคัดกรอง ปชช. จ.พัทลุง

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าจัดโครงการแพทย์ ม.อ.สัญจร ครั้งที่ 3 นำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจคัดกรองประชาชนในเทศบาลตำบลท่ามิหรำ จ.พัทลุง

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 61 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศการให้คำปรึกษาและวิจัยทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบพันธุกรรม โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ จัดโครงการ แพทย์ ม.อ.สัญจร ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ การตรวจคัดกรองและการติดตามอุบัติการณ์ครอบครัวผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงแบบพันธุกรรม โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคดังกล่าว ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ นำทีมลงตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่เทศบาลตำบลท่ามิหรำ จ.พัทลุง

การออกหน่วยแพทย์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงแก่ประชาชนและกลุ่มเสี่ยง เพื่อตระหนักถึงโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบพันธุกรรมในเชิงรุก เพื่อให้โอกาสแก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงในการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบพันธุกรรม และเพื่อดูแลติดตามการดำเนินโรคให้กับประชากรของกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบพันธุกรรม

ซึ่งการจัดโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบพันธุกรรมฯ ถือว่าเป็นโครงการเชิงรุก เพื่อให้ความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นสามารถให้การดูแลช่วยเหลือประชากรกลุ่มเสี่ยง สามารถให้การรักษาได้ทันก่อนที่จะเป็น โรค หรือให้การรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงได้ทันในระยะแรกซึ่งจะมีผลการรักษาที่หายขาดได้ เพราะหากกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ไม่ได้รับการดูแล จะมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงได้ต่อไปในอนาคต ทำให้ภาครัฐสิ้นเปลืองงบประมาณจำนวนมากในการดูแลรักษาในภาวะที่โรคมีความรุนแรงแล้ว

โดยที่ผ่านมามีการออกหน่วยคัดกรองในพื้นที่เสี่ยงมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง ได้แก่ ต.ขอนคลาน จ.สตูล และโรงเรียนเทศบาล 4 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งพบคนไข้ที่มีความเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 50 ซึ่งหลังจากการออกหน่วยแพทย์ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ทางศูนย์ความเป็นเลิศการให้คำปรึกษาและวิจัยทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบพันธุกรรมมีการวางแผนที่จะลงพื้นที่ในชุมชนอื่นๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ต่อไปในอนาคต

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=25962