“คิงส์ เฟาน์เทร่น” เจ้าของอาหารเสริม QCAN แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ประกาศแตกหักพันธมิตรจ่อฟ้องเลียนแบบเครื่องหมายการค้าและละเมิดอนุสิทธิบัตรกระบวนการผลิต “QCAN PLUS CBD” กับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้นำสินค้าเลียนแบบไปขายต่อ

คิงส์ เฟาน์เทร่น เจ้าของอาหารเสริม QCAN Plus CBD แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยประกาศแตกหักพันธมิตร จ่อฟ้องเลียนแบบเครื่องหมายการค้าและละเมิดอนุสิทธิบัตรกระบวนการผลิต “QCAN Plus  CBD” กับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้นำสินค้าเลียนแบบไปจำหน่ายต่อ

             จากกรณีที่ บริษัท คิงส์ เฟาน์เทร่น จำกัด  บริษัทฯ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ภายใต้แบรนด์ QCAN  และเป็นเจ้าของผลิตผลิตภัณฑ์ QCAN Plus CBD : แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2565  ประกาศดำเนินคดีกับขบวนการลอกเลียนแบบสินค้าQCAN Plus CBD :::โดยได้ออกสินค้าและจำหน่ายพร้อมทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์หลอกลวงให้ผู้บริโภคหลงเข้าใจผิดว่า QCAN Plus CBD ได้เปลี่ยนชื่อเป็น C CAN Plus CBD  ผลของการกระทำดังกล่าว บริษัทฯ และผลิตภัณฑ์ QCAN ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก                     ในเรื่องนี้นางสาวมิรา นิลยกุณช์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทคิงส์ เฟาน์เทร่น จำกัด เปิดเผยว่า  

            “ เรียนท่านผู้บริโภคที่เคารพ ดังที่ท่านได้ทราบมาก่อนแล้วว่า Qcan plus CBD เป็นของบริษัทคิงส์ เฟาน์เทร่น จำกัด โดยมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คิวแคน ตั้งแต่ปี 2565 และในปีนี้ 2567 เกิดการแอบอ้างว่า Qcan plus CBD เปลี่ยนชื่อเป็น Ccan plus CBD โดยกระจายข่าวสารเรื่องนี้ผ่านทางสื่อโซเชียลว่า Qcan plus CBD ได้เปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อ Ccan plus CBD ทั้งนี้ทางบริษัท อยากจะขอชี้แจงและแสดงจุดยืนว่า ทางเราไม่เคยเปลี่ยนแปลงชื่อผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อน ตามที่มีการไปแอบอ้าง จงใจให้ท่านหลงเชื่อ เข้าใจผิด หากท่านนำไปบริโภคอาจเกิดปัญหากับสุขภาพของท่าน โดยไม่ได้ตั้งใจพอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดิม ฉะนั้น ณ ตอนนี้ท่านรู้แล้วว่า สิ่งนี้เป็นของลอกเลียนแบบ จากการแอบอ้างของกลุ่มบุคคลซึ่งเคยอยู่ภายในบริษัท ที่ไม่หวังดีต่อบริษัท ทางบริษัทได้แต่งตั้งทนายเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้แล้ว และหากท่านยังมีการบริโภคต่อไปอาจเกิดปัญหาสุขภาพกับตัวท่านเอง จึงฝากข้อคิดแก่ผู้บริโภคมา ณ ที่นี้ ….(สำหรับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าเดิม หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่บริษัท ฯ เบอร์โทร.  085-5151-894 คุณวิชชุดา

           ทางด้านนายธเนศ ทิดอร่าม ในฐานะทนายความผู้รับมอบหมายจากบริษัท คิงเฟาน์เทร่น จำกัดให้ดำเนินคดีกับขบวนการผู้หลอกลวงดังกล่าว…โดยได้เปิดเผยถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า  

           ตามที่ บริษัท คิงส์ เฟาน์เทร่น จำกัด ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท เอฟแอนด์ บีเฮาส์จำกัด  ให้เป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ QCAN Plus CBD และดำเนินขอเลข อย. มีการทำสัญญาระหว่างโรงงานผู้ผลิต กับคณะกรรมการชุดเก่าของบริษัทฯ พร้อมกับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยใช้ชื่อ ผลิตภัณฑ์ QCAN  

            ต่อมาทางบริษัทฯ ได้ตรวจสอบเอกสารภายใน พบว่าคณะกรรมการชุดเก่ามีการฉ้อโกงเงินบริษัทเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทางคณะกรรมการชุดเก่าได้ทำหนังสือยอมรับความผิดไว้ด้วยแล้ว    

            ต่อมาในช่วงเดือนธันวาคม 2566 (ในปีเดียวกัน) ทางบริษัทได้ตรวจสอบพบว่ามีสินค้าออกใหม่มาวางตลาด เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเหมือนกัน มี CBD เหมือนกัน โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์  C CAN PLUS CBD….ซึ่งเมื่อพิจารณาภาพรวมแล้ว   ดูเจตนาของเขาแล้วมีเจตนา มีเจตนาลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของเรา อีกทั้งมีการไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า QCAN PLUS CBD ได้เปลี่ยนปรับสูตรใหม่ เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ในชื่อใหม่คือ C CAN  PLUS CBD และได้มีการใช้เลข อย.เดียวกัน    

            ทั้งนี้ ในสัญญาว่าจ้างผลิตมีข้อระบุเงื่อนไขไว้เกี่ยวกับการเก็บความลับทางการค้า..โดยคณะกรรมการชุดเก่า ในขณะนั้น ได้ทำข้อตกลงกับโรงงานโดยมีเงื่อนไขว่า การเก็บรักษาความลับทางการค้ามีระยะเวลา 1 ปี ซึ่งสัญญาดังกล่าวครบ 1 ปี ในวันที่ 1 พ.ย. 2566 .  เมื่อถึงเดือนธันวาคม 2566 โรงงานผู้ผลิตได้ดำเนินการออกผลิตภัณฑ์ใหม่กับผู้ประกอบการรายใหม่ โดยนำเลข อย. และส่วนประกอบของเราไปผลิตให้เจ้าใหม่  ซึ่งมีเจตนาลอกเลียนแบบสินค้าของเรา โดยเอาความมีชื่อเสียงของคิวแคนอ้างไปเป็นของตน เพื่อให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นสินค้ามาจากบริษัทเดียวกัน และมีความเกี่ยวโยงกัน   ถึงแม้เขาจะใช้ชื่อจัดจำหน่ายเป็นชื่อบริษัทอื่นก็จริง แต่เขาไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า เขาเกี่ยวข้องกับคิวแคน แท้ที่จริงแล้วเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด    

           “จากการกระทำดังกล่าว  เข้าข่ายการเลียนแบบเครื่องหมายการค้า และละเมิดอนุสิทธิบัตรกระบวนการผลิต ที่บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว… ขณะนี้ทางเราอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลพยาน หลักฐาน  เพื่อจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้นำสินค้าเลียนแบบไปจำหน่ายต่อ  

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=87016