ป.ป.ช.ภาค 9 ลงพื้นที่สุสานอควอเรียมหอยสังข์ สงขลา คาดคดีจบภายในปี 66 เผยเข้าข่ายทำผิด 27 ราย ย้ำ วป.ติณสูลานนท์ไม่มีเอี่ยว

ป.ป.ช.ภาค 9 ลงพื้นที่อควอเรียมหอยสังข์ จังหวัดสงขลา ที่ยังไม่แล้วเสร็จถูกทิ้งร้างมายาวนานถึง 15 ปี ใช้งบประมาณไปแล้ว 1,400 ล้านบาท แต่ได้แค่สุสานหอยสังข์ที่ยังคงไร้คำตอบว่าท้ายที่สุดจะลงเอยเช่นใด ล่าสุดป.ป.ช.ภาค9 คาดคดีจบภายในปี 66 เผยเข้าข่ายทำผิด 27 ราย ผอ.กิตติศักดิ์ ย้ำวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ไม่ข้องเกี่ยวทั้งสิ้น

          อควอเรียมหอยสังข์ หรือโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ***และต้องตอกย้ำว่า งบประมาณและการดำเนินการไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์แต่ประการใด*** ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.)เป็นผู้เสนอโครงการดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2551 ท่ามกลางข้อกล่าวอ้างถึงปัญหาต่างๆที่รุมเร้า จนทำให้ต้องหยุดการก่อสร้างชั่วคราว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่มีการแก้ไขปัญหาและของบประมาณเพิ่มเพื่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จ กระทั้งใช้งบประมาณไปถึง 1,400 ล้านบาท ท้ายที่สุดก็ยังไม่แล้วเสร็จ ถูกทิ้งให้กลายเป็นสุสานมานานถึง 15 ปี

          ล่าสุดวันที่ 18 ต.ค. 66 นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ รักษาการผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 9 พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ กั่วพานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชน ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในอาคารโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ อควอเรียมหอยสังข์ดังกล่าว โดยจากการตรวจสอบพบว่า ภายในอาคารมีสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก และยังมีร่องรอยน้ำรั่วจากหลังคาของอาคารหลายจุด ขณะที่ตู้แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่อยู่ภายใน ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ นั้นคาดการณ์ว่าเสื่อมสภาพกว่าครึ่ง                    นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ เปิดเผยว่า หลังจาก ป.ป.ช.ได้รายงานความคืบหน้าในการตรวจสอบการทุจริตในโครงการนี้ ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาแล้ว รวมทั้งสิ้น 27 ราย และปัจจุบันอยู่ในระหว่างรับฟังคำชี้แจงข้อกล่าวหา สำหรับรายละเอียดของคดีนี้นั้น พบว่า มีข้าราชการระดับสูงเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย สาระสำคัญในการสอบสวนกรณีนี้คือ ในช่วงเกิดปัญหาระยะแรก (เฟส 1) ระหว่างปี 2550-2554 ที่ใช้งบประมาณไปกว่า 835 ล้านบาทแต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า การก่อสร้างไม่คืบหน้า และมีการแก้ไขเปลี่ยนแบบแปลนหลายครั้ง ทั้งที่จ่ายเงินให้เอกชนผู้รับเหมาไปแล้ว ในเมื่องานยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ทำไมถึงอนุมัติ หรือตรวจรับงานจ้าง เพื่อขอวงเงินในงวดต่อๆ ไปได้ ส่วนการตรวจสอบกระทรวงศึกษาธิการนั้น ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยสรุปเบื้องต้นว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนในการก่อสร้างดังกล่าว หลังจากนั้นจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าคดีนี้จะดำเนินการให้เสร็จภายในปีนี้                   ด้านนายกิตติศักดิ์ กั่วพานิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมถึงชาวสงขลา และประชาชนทั่วไป ว่าจริงๆแล้วโครงการดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์แต่ประการใด เพียงเฉพาะพื้นที่ตั้งของโครงการมาตั้งอยู่ในวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์เท่านั้นเอง ตนเองก็คอยให้ความสะดวกกับทุกฝ่ายที่เข้ามาติดตามกับโครงการนี้ด้วยดี

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=83291