|

ผอ. สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 16 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ต้อบรับคณะสื่อสัญจร ให้ข้อมูลเรื่องน้ำในจังหวัดสงขลา พร้อมพาเยี่ยมชมคลองภูมินาถดำริ

ผอ. สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 16 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ต้อบรับคณะสื่อสัญจร ให้ข้อมูลเรื่องน้ำในจังหวัดสงขลา พร้อมพาเยี่ยมชมคลองภูมินาถดำริ

           เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 กิจกรรมสื่อสัญจร ลงพื้นที่เยี่ยมชมสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 16 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ภายใต้การต้อนรับของนายรุทร์ อินนุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 16 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่พร้อมด้วยคณะให้การต้อนรับคณะสื่ออย่างเป็นกันเอง พร้อมให้ข้อมูลเรื่องน้ำ การป้องกันและแกัปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสงขลา ทั้งในอดีตปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งกำลังเดินหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว ที่จะสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดสงขลาในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น                 นายรุทร์ อินนุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 16 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กล่าวถึง โครงการอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว จังหวัดสงขลา ในส่วนของการดำเนินการก่อสร้าง จะอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 16 ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำคลองแก้ว ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภามีลำน้ำสาขาจำนวนมาก มีปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยรายปีสูงประมาณ 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี สภาพภูมิประเทศลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา พื้นที่ด้านล่างที่เป็นพื้นที่ชุมชน มีลักษณะคล้ายแอ่งกระทะ มีพื้นที่ชั้นนอกเป็นพื้นที่ภูเขาล้อมรอบ เมื่อฝนตกเป็นปริมาณมาก คลองอู่ตะเภาจะไม่สามารถรองรับน้ำได้ ส่งผลให้น้ำไหลล้นตลิ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดน้ำเอ่อท่วมตลอดพื้นที่สองฝั่งของคลองอู่ตะเภารวมไปถึงพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่           กรมชลประทานได้กำหนดแผนการแก้ไขปัญหา ดังนี้

1) เพิ่มประสิทธิภาพคลองระบายน้ำสายที่ 1 (คลอง ร.1) หรือ คลองภูมินาถดำริ จากอัตราการระบายเดิม 465  ลบ.ม./วินาที เป็น 1,200 ลบ.ม./วินาที ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2565

2) ตัดยอดน้ำ โดยการสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ ให้สามารถเก็บกักน้ำ ได้รวมประมาณ 120 ล้าน ลบ.ม.

          ด้วยพระอัจฉริยภาพของในหลวง ร.9 ช่วยให้ประชาชนชายหาดใหญ่ รอดพ้นจากสถานการณ์อุทกภัยดังที่เคยเกิดขึ้นเมื่อในอดีต                      กรมชลประทานได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทุกภัยหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ในปี 2558-2565 ในปี พ.ศ. 2567 หลายพื้นที่ในภาคใต้ต้องประสบปัญหาอุทกภัย ในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ได้ใช้ประโยชน์จากคลองภูมินาถดำริ หรือคลอง ร.1 ช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยให้กับพี่น้องชาวหาดใหญ่ได้เป็นอย่างมาก ไม่ต้องประสบปัญหาอุทกภัยเหมือนในอดีตปี 2553                 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดระดับความเสียหายช่วงฤดูฝนและเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้ง สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ คือการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ช่วงหน้าน้ำช่วยกักเก็บน้ำไว้ ช่วงหน้าแล้งระบายน้ำที่กักเก็บไว้เพื่อช่วยพื้นที่การเกษตร และมีประตูระบายน้ำช่วยทดน้ำเป็นแหล่งน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา ช่วยลดวิกฤตเรื่องน้ำในหน้าแล้ง และเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านน้ำ ดังนั้น อ่างเก็บน้ำคลองแก้วถือเป็นอีกความหวังหนึ่งของประชาชนในพื้นที่ โดยจะดำเนินการเตรียมความพร้อมในด้านการสำรวจ-ออกแบบ และจัดหาที่ดินในปี 2568-2571 และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ในปี 2572 ต่อไป

 

 

 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=101358

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us