“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์”สั่งเด้ง! ตร.ป่าติ้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์”สั่งเด้ง! ตร.ป่าติ้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

ทันทีที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบกรณีตำรวจยโสธรเรียกปรับ 2 พันนักเรียนหญิง ม.5 ในความผิด ไม่มีใบขับขี่ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ กลับโดนลากไปข่มขืนแทนค่าปรับ ได้สั่งการด่วนให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบมีมูลเป็นความจริงให้ดำเนินคดีอาญาเด็ดขาดและดำเนินการขยายผลผู้เกี่ยวข้องทุกราย และหากตรวจสอบว่าผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องให้ดำเนินการเอาผิดตามมาตรการ 1212/2537 ด้วย ด้าน“บิ๊กโจ๊ก” เผยภายหลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบเป็นเรื่องจริง สั่งให้ออกราชการไว้ก่อพร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง

           จากเพจสายไหมต้องรอด โพสต์ “เรื่องราวสุดฉาวของวงการตำรวจ โดยระบุข้อความว่า มีนักเรียน ม.5 ขับรถจักรยานยนต์ ไปเรียนหนังสือกับน้อง ถูกตำรวจเรียกตรวจ พบว่าเด็กผู้ขับไม่มีใบขับขี่ ตำรวจได้เรียก เงินค่าปรับเป็นจำนวน 2,000 แต่น้องไม่มีจ่าย จึงถูกพาไปข่มขืนข้างโรงพัก!” เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2567

           พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้ดำเนินการสั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่เกิดขึ้น หากพบมีมูลเป็นความจริง ให้ดำเนินคดีอาญาเด็ดขาด ตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมขยายผลดำเนินการผู้เกี่ยวข้องทุกราย และหากตรวจสอบว่าผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องให้ดำเนินการเอาผิดตามมาตรการ 1212/2537 ด้วยทันทีที่

           ขณะที่นายเอกภพ เหลือประเสริฐ  หรือ เอก ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ทันทีที่ทราบเรื่องดังกล่าว ได้ประสานเรื่องไปยัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบข้อเท็จ จริงแล้วเช่นกัน

           โดยล่าสุดพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ภายหลังเกิดเหตุการณ์และรับทราบข้อมูลเบื้องต้น โดบระบุว่าเรื่องราวดังกล่าวตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นความจริง เบื้องต้นมีผู้ก่อเหตุ 1 คน เป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. ของ สภ.ป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ตอนนี้ได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและกำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรลงไปติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

          “ในฐานะที่ส่วนตนเองกำกับดูแลเกี่ยวกับสิทธิเด็กและสตรีรวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ อีกทั้งการก่อเหตุครั้งนี้เป็นการกระทำของตำรวจ ตนเองยอมรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้กำลังประชุมอยู่ต่างประเทศ หากเสร็จภารกิจจะรีบลงพื้นที่ไปติดตามคดีนี้ทันที” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  กล่าว

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=85800