ม.อ.หาดใหญ่ จัดเสวนา “หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม ครั้งที่ 13” ระดมทุกภาคส่วนร่วมเตรียมรับมือน้ำท่วมแบบบูรณาการ
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้ ม.สงขลานครินทร์ จัดเสวนา “หาดใหญ่เข้มแข็ง..สู้ภัยน้ำท่วม ครั้งที่ 13 ประจำปี 2565” โดยมี นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดเสวนาในครั้งนี้ และ ผศ.ดร.พลชาติ โชติการ รองผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวต้อนรับ ณ ห้องประชุมดงยาง 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และรูปแบบออนไลน์ zoom ไปพร้อมกัน เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแบบบูรณาการ
โดย นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเสวนาพร้อมกล่าวว่า “ได้เห็นความมุ่งมั่นของคณะกรรมการผู้จัดงาน ฯ และความท้าทายที่ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทุกท่านที่ต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งหมายถึงทุกภาคีที่ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมเสวนา “หาดใหญ่เข้มแข็ง..สู้ภัยน้ำท่วม” กันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ต่างพร้อมใจและผนึกกำลังกัน เราต้องการให้ทุกภาคส่วนของจังหวัดสงขลา พร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม การขยายผลของแผนปฏิบัติการหรือแนวปฏิบัติที่ดีต่าง ๆ ที่เป็น model แล้ว จึงจำเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับฟังเสวนาสอบถามความก้าวหน้าในแต่ละแผนปฏิบัติการของแต่ละหน่วยงานว่ามีนวัตกรรมและเทคโนโลยีอะไรที่ภาคประชาคมเข้าถึงได้”
ซึ่งหวังให้ทุกคนตระหนักในการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ และ เพื่อให้ภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชน และภาคประชาชน ได้ใช้ข้อมูลเป็นฐานในการแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ได้อย่างยั่งยืน จึงไม่ยากนัก ถ้าทุกภาคีเครือข่ายยังเหนียวแน่นมุ่งมั่น” นายวรณัฎฐ์ หนูรอต กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับเสวนาในครั้งนี้ จะมีทั้งบรรยายโดย รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนท์ ในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ” , ผศ.ดร.สุกำพล จงวิไลเกษม ในหัวข้อ “ผลกระทบของภัยน้ำท่วมต่อราคาบ้านที่อยู่อาศัยในอำเภอหาดใหญ่” และกิจกรรมเสวนา“หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม” ร่วมกันโดยตัวแทนของภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ นายธนเดช อินขวัญ จากเทศบาลนครหาดใหญ่ นางสาววิไลรัตน์ เคหะเสถียร จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลานายกมล พรหมสาขา ณ สกลนคร ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายพัฒศักดิ์ แก้วชูแสงจากสำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 8 นายสุรพงศ์ เจริญการยนต์ จากโครงการชลประทานสงขลา รศ.ตร.ธนิต เฉลิมยานนท์ ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้ และ ดร.สมพร สิริโปราณานนท์ จากมูลนิธิเครือข่ายเมืองภาคใต้ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมซักถามเสนอแนะและแจ้งปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมากับผู้ร่วมเสวนา และตลอดการเสวนาจะมีนิทรรศการให้ความรู้และวิธีการรับมือการเกิดอุทกภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ผู้สนใจได้เข้าศึกษาและรับชมการสาธิตอีกด้วย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พลชาติ โชติการ รองผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า “จากกิจกรรมเสวนา “หาดใหญ่เข้มแข็ง..สู้ภัยน้ำท่วม” ที่ได่เริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 ถึงปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด Hatyai Model ทำให้ได้แนวคิด และแนวทางในการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างบูรณาการจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เช่น ระบบบ้านพี่เลี้ยงในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ แผนการเตรียมความพร้อม การนำเสนอผลงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและจัดการน้ำท่วม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีของชุมชนตัวอย่าง และระบบเตือนภัยน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ เป็นต้น”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พลชาติ โชติการ ยังได้กล่าวอีกว่า “โดยศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้ จะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในทุกภาคส่วน ประกอบด้วย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมในการวิเคราะข้อมูล ตั้งแต่การดูปริมาณฝนทางภาพถ่ายดาวเทียม มีแบบจำลองคาดการณ์น้ำฝนในอนาคต ซึ่งจะอัพเดทข้อมูลทุก 6 ชั่วโมง มีการแจ้งเตือนฝนล่วงหน้า 3 วัน ร่วมกับข้อมูลเรดาร์ของกรมอุตุฯ แบบเรียลไทม์ และใช้ธงเหลืองกับธงแดง เป็นการแจ้งเตือนเฝ้าระวังภัยแก่ประชาชน โดยกรมชลประทานในพื้นที่จะแจ้งไปยังจังหวัด รวมทั้งจะมีกล้อง CCTV อยู่ในทุกๆ จุดที่เป็นจุดสำคัญ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นภาพระดับน้ำตามข้อมูลความเป็นจริง อีกด้วย”
สืบเนื่องจากทางภาคใต้ มักได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกฉียงเหนือ ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคมของทุกปี ทำให้เกิดฝนตกหนักและมีเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมหนัก นอกจากนี้ยังทำให้เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเห็นได้ว่ามีพายุเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยหลายครั้งและหนักขึ้นในปี 2565 และจากการเสวนาที่ผ่านมานำมาจึงได้สรุปแผนการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมทั้งแผนปฏิบัติการหาดใหญ่โมเดล การแลกเปลี่ยนด้านความพร้อมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ร่วมกันเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแบบบูรณาการ อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดความพร้อมในการรับมือน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง และเร่งเร้าให้ทุกภาครัฐเอกชนร่วมไปถึงประชาชนในพื้นที่เล็งเห็นความสำคัญในการลดความเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ และพื้นที่อื่น ๆ ให้เท่าทันตามเทคโนโลยีดิจิตอลด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติแบบบูรณาการทุกภาคส่วน และชุมชนต่าง ๆ เริ่มด้วยก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เพื่อเสริมความเข้มแข็งของชุมชน และประชาชนยิ่งขึ้น
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=75661