รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ เปิดตัว “วัคซีนไข้เลือดออก” แห่งแรกของภาคใต้
คนใต้มีเฮ! ลดโอกาสเป็นไข้เลือดออกด้วยวัคซีน โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ เปิดตัว “วัคซีนไข้เลือดออก” อย่างเป็นทางการ เป็นแรกแห่งของภาคใต้ เผย ปี 59 ประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่า 6 หมื่นราย – สงขลามีผู้ป่วยกว่า 5 พันราย ติดอับดับ 2 ของประเทศ
วานนี้ (11 ม.ค. 60) ที่ ห้องประชุมชั้น 4 โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีการจัดงานเปิดตัววัคซีนไข้เลือดออก และ เสวนาความรู้ โดย รศ.นพ.สืบสาย กฤษณะพันธุ์ อายุรกรรมแพทย์โรคติดเชื้อ ศูนย์วัคซีน โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ โดยมีลูกค้าของโรงพยาบาลฯ เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
“โรคไข้เลือดออก” เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำกัดอายุ เพศ ถือเป็นปัญหาทั้งประเทศไทยและทั่วโลก จึงให้ความสำคัญการป้องกัน โดยองค์การอนามัยโลกประมาณการว่ามีประชากรประมาณ 3,900 ล้านคน อาศัยอยู่ในเขตที่มีการระบาดของเชื้อ แต่ละปีมีประชากรติดเชื้อไข้เลือดออก 390 ล้านคน มีอาการจากการติดเชื้อ 96 ล้านคน นอนโรงพยาบาล 500,000 คน และเสียชีวิตประมาณ 2.5%
แน่นอนว่าโรคนี้สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคม โดยจากข้อมูลของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี 2559 ประเทศไทยพบมีผู้ป่วยกว่า 60,000 ราย จังหวัดสงขลากว่า 5,000 ราย พบมีอัตราตาย 0.71 ต่อประชากรแสนคน ทำให้จังหวัดสงขลามีผู้ป่วยไข้เลือดออกมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่มีอาการต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก จึงเป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
รศ.นพ.สืบสาย กฤษณะพันธุ์ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ ศูนย์วัคซีน โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ ให้ความรู้ว่า เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกเดงกี่มีอยู่ 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วยสายพันธุ์ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4 ซึ่ง “วัคซีนไข้เลือดออก” นี้ รวมทั้ง 4 สายพันธุ์ให้อยู่ในเข็มเดียวกัน ถือเป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นจากความร่วมมือของหลายประเทศ และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 65.6% , มีประสิทธิภาพลดความรุนแรงของโรคได้ 93.2% และลดอัตราการนอนโรงพยาบาลได้ 80.8% สามารถฉีดได้ในกลุ่มอายุ 9 – 45 ปี และอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออก สำหรับข้อห้ามนั้นไม่ควรฉีดแก่สตรีตั้งครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่ติดเชื้อ HIV หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เช่น สเตียรอยด์ในขนาดสูงหรือเคมีบำบัด หรือมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนี้ รวมถึง ผู้ที่มีไข้สูงหรือกำลังเจ็บป่วยแบบเฉียบพลัน ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อนจนกว่าจะหายดี
การฉีดวัคซีนไข้เลือดออกจะฉีดเข้าไปที่ใต้ผิวหนัง 3 ครั้งๆ ละ 0.5 มล. โดยฉีดห่างกันครั้งละ 6 เดือน อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดได้แก่ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว มีไข้ต่ำๆ ผิวหนังแดง ห้อเลือด บวม และคัน แต่อาการดังกล่าวเป็นชนิดไม่ร้ายแรง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายใน 3 วันหลังจากฉีดวัคซีน
สุดท้ายเมื่อเราฉีดครบ 3 เข็มแล้ว จะสามารถป้องกันไข้เลือดออกได้ตลอดชีวิต หรือไม่นั้นต้องมีการติดตามผลกันต่อไป เพราะ “วัคซีนไข้เลือดออก” เพิ่งจะผลิตมาใช้ได้ประมาณ 4 – 5 ปี เริ่มใช้ในคนทั่วไปเพียงปีเศษๆ สำหรับในประเทศไทยเพิ่งได้รับอนุมัติเมื่อปลายปี 2559 เชื่อว่าน่าจะช่วยลดความสูญเสียจากไข้เลือดออกได้มากขึ้น
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=12599