สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา สงขลา
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา สงขลา ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
วานนี้ (25 ก.ค. 62) เวลา 19.30 น.สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา สงขลา ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยมีนายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม ประธานกรรมการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และคณะกรรมการจัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ นางสุบิน จริตงาม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ผู้แทนแม่บ้านทหารบกและผู้แทนสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพลับพลาพิธี ทรงประทับพระราชอาสน์ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร รองศาสตราจารย์บุญรักษา สุนทรธรรม ที่ปรึกษา เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าถวายหนังสือที่ระลึกศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ระวี ภาวิไล อ.เฉลิมชนม์ วันทอง ผู้อำนวยการหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาสงขลาเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึก ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กราบบังคมทูลรายงานและกราบบังคมทูลเบิกผู้แทนคณะกรรมการจัดงานเข้ารับของที่ระลึก ผู้แทนคณะวาดภาพทางดาราศาสตร์บนผนังอาคารหอดูดาว เข้ารับพระราชทานโล่ที่ระลึก จำนวน 3 ราย ผู้แทนสถานศึกษานำเสนอกิจกรรมดาราศาสตร์ในโรงเรียนพื้นที่ภาคใต้ เข้ารับพระราชทานโล่ที่ระลึก จำนวน 2 ราย และผู้มี อุปการคุณเข้ารับพระราชทานของที่ระลึก จำนวน 60 ราย
จากนั้น เสด็จออกจากพลับพลาพิธ ไปยังแท่นกดปุ่มไฟฟ้า ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายชื่อหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ทรงปลูกต้นราชพฤกษ์ จำนวน 1 ต้น และเสด็จเข้าอาคารฉายดาว ซึ่งเป็นโดมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตร ติดตั้งเครื่องฉายดาวระบบฟูลโคมดิจิทัล ที่ สดร. ได้พัฒนาระบบการฉายภาพที่คมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น ทอดพระเนตรวีดิทัศน์หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษาสงขลา และโครงสร้างพื้นฐานคาราศาสตร์ของไทย ซึ่งสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยดาราศาสตร์ อาทิ หอดูดาวแห่งชาติ เครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ควบคุมระยะไกลอัตโนมัติ หอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชน อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร รวมถึงกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติที่ สดร. กำลังจัดสร้างอยู่
ต่อมาเสด็จออกจากอาคารฉายดาว ทอดพระเนตรนิทรรศการกิจกรรมดาราศาสตร์ในโรงเรียนพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ โรงเรียนเตรียมศึกษาวิทยา จังหวัดปัตตานี และ โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา ในโอกาสนี้ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายอุดม ชูลีวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา พร้อมคณะเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายรายงานผลการดำเนินงานของโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2561 และทูลเกล้าฯ ถวายเงิน จำนวน 200,000 บาท โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
จากนั้น เสด็จฯ ไปยังอาคารนิทรรศการทอดพระเนตรนิทรรศการทางดาราศาสตร์แบบมีปฏิสัมพันธ์จำนวน 14 โซน อาทิ ฤดูกาลและการ โคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ การเกิดเฟสดวงจันทร์ หลุมดวงจันทร์ แบบจำลองการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง น้ำหนักบนดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ การหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์แก๊สและภาพถ่ายทางดาราศาสตร์
จากนั้นเสด็จออกจากอาคารนิทรรศการ ผ่านสะพานดาวหางไปยังอาคารหอดูดาว เสด็จเข้าอาคารหอดูดาว ฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับผู้บริหารและคณะกรรมการ ทรงลงพระนามาภิไธยบนแผ่นทองเหลือง และเสด็จขึ้นหอดูดาว เพื่อทอดพระเนตรการทำงานของกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กบริเวณระเบียงดูดาว ทอดพระเนตรวัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์ รวมถึงทรงบันทึกภาพวัตถุท้องฟ้าอีกด้วย หลังจากนั้น เวลาประมาณ 21.30 น. เสด็จพระราชดำเนินลงชั้น 1 ทางบันได ออกจากอาคารดูดาว เพื่อทรงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สำหรับ “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา” หรือหอดูดาวภูมิภาคสงขลา เป็นหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ บริเวณเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ด้วยตำแหน่งที่ตั้งในภาคใต้ บริเวณละติจูด 7 องศาเหนือ ส่งผลให้หอดูดาวแห่งนี้ มีจุดเด่นคือ สามารถศึกษาวัตถุในซีกฟ้าใต้ได้ดีกว่าหอดูดาวในภูมิภาคอื่น และยังสามารถสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนได้ เนื่องจากสภาพท้องฟ้าของภาคใต้ในเวลานั้นเอื้ออำนวยต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์มากกว่าภูมิภาคอื่น
ภายในหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ประกอบด้วยอาคารฉายดาว มีโดมฉายดาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร ติดตั้งเครื่องฉายดาวระบบฟูลโดมดิจิทัล ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล 12 กล้องฉาย สามารถแสดงภาพเสมือนสามมิติ มีอาคารหอดูดาว มีโดมไฟเบอร์กลาสทรงเปลือกหอย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 ฟุต เปิดออกได้ 180 องศา สังเกตท้องฟ้าได้รอบทิศทาง การติดตั้งกล้องโทรทรรศน์อัตโนมัติแบบสะท้อนแสงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7 เมตร พร้อมอุปกรณ์สำหรับงานวิจัยดาราศาสตร์ รวมถึงอาคารหอดูดาวที่มีระเบียงดาวหลังคาเลื่อน ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ขนาดรองลงมาอีก 6 ชุด ใช้สังเกตวัตถุท้องฟ้า และจัดกิจกรรมดาราศาสตร์
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องตรวจวัดสภาพอากาศ ที่มีความทันสมัย, ลานดูดาวที่สามารถรองรับคนได้มากกว่า 500 คน มีกล้องดูดาวเทคโนโลยีมากกว่า 50 ชุด มีอาคารอำนวยการที่เป็นส่วนสำนักงานและมีห้องโถงนิทรรศการที่มีความทันสมัย รองรับการจัดการเรียนรู้การวิจัยด้านดาราศาสตร์แบบครบวงจรทั้งระบบ Astronomy Multimedia ระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเชื่อมต่อระบบกล้องอัตโนมัติ
ทั้งนี้ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา นอกจากเป็นแหล่งเรียนรู้ดาราศาสตร์เต็มรูปแบบแห่งแรกของภาคใต้ หอดูดาวภูมิภาคสงขลายัง เป็นศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์อิสลามแห่งแรกของไทย มีพันธกิจคือร่วมสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการ กำหนดเวลาที่ใช้ ในพิธีทางศาสนาอิสลาม อันเป็นการสนับสนุนภารกิจของ สำนักจุฬาราชมนตรีอีกด้วยและด้วยทำเลที่ตั้งบนเขารูปช้าง จากหอดูดาวสามารถมองเห็นทะเลสองฝั่ง มีทัศนียภาพที่โดดเด่นสวยงาม คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์คการเรียนรู้ดาราศาสตร์แห่งใหม่ของภาคใต้ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ด้านดาราศาสตร์ให้กับเยาวชน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับการเปิดให้บริการหอดูดาวภูมิภาคสงขลา จะเปิดให้บริการ แก่ประชาชนในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป โดย เปิดให้บริการวันอังคาร – อาทิตย์ ห้องฟ้าจำลองระบบฟูลโคมดิจิทัล ค่าธรรมเนียม นักเรียน/นักศึกษา 30 บาท บุคคลทั่วไป 50 บาท
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=44446