|

สร้างสำนึกพลเมืองรุ่นใหม่ “เยาวชนภาคใต้”…สู่สังคมโลกในศตวรรษที่ 21

%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%a1-2

โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา ติดชิปสำนึกความพลเมืองให้เยาวชนเพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการ “สร้างพลเมืองรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพสู่สังคมโลกในศตวรรษที่ 21” และมีคุณลักษณะที่สังคมไทยต้องการ

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2559 ห้องการะเกด โรงแรมกรีนเวิลด์ พาเลซ อ.เมือง จ.สงขลา โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลาภายใต้โครงการพัฒนาองค์กรระดับจังหวัดเพื่อสร้างพลเมืองเพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่ ซึ่งนับเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนพลเมืองสร้างสรรค์ หรือ Thailand Active Citizen Network ได้มีการจัดงานเทศกาลการเรียนรู้ พลเมืองเยาวชนส่องแสง ปี 4 “พลเมืองเยาวชนรุ่นใหม่ตามแนวพระราชดำริ” ดำเนินงานโดยสงขลาฟอรั่ม สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) ร่วมกับ มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เปิดโอกาสให้เยาวชน “เรียนรู้จากการลงมือทำโครงการ” เพื่อร่วมเรียนรู้การแก้ไขปัญหาในชุมชนสังคมที่ตนอาศัยอยู่ ด้วยคาดหวังว่าหากกลุ่มเยาวชนผ่านกระบวนการเหล่านี้จะทำให้กลุ่มเยาวชน “เก่งคิด เก่งงานเก่งคน”นั่นคือมีทักษะความรู้ ความสามารถในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ มีทักษะสังคม จัดการงานเป็นริเริ่มลงมือทำจนงานสำเร็จ และเป็นพลเมืองตื่นรู้มีส่วนร่วมและทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ดังที่สังคมไทยต้องการซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ในการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ เพื่อเตรียมคนในสังคมไทยให้มีทักษะในการดำรงชีวิตสำหรับโลกในศตวรรษที่ 21 อีกด้วย  โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลาให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วยเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมเมืองสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ผู้ปกครอง  สื่อมวลชน  และผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมงาน

%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%b2

บรรยากาศภายในงานเริ่มด้วยพิธีรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นตื่นตากับศิลปะการแสดงโขนจากน้องๆกลุ่มเด็กโขน พร้อมกับขบวนกลองยาวจากเยาวชนทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา พัทลุง และตรัง ภายใต้โครงการฯกว่า 100 คน เดินเชิญชวนผู้ร่วมงาน ชมนิทรรศการเทศกาลการเรียนรู้ พลเมืองเยาวชนส่องแสง ปี 4 “พลเมืองเยาวชนรุ่นใหม่ตามแนวพระราชดำริ”ทั้ง 7 ประเด็น 25 โครงการ

%e0%b8%96%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%9b%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b9%e0%b9%88-2

ด้านนางพรรณิภา โสตถิพันธุ์ ผู้อำนวยการสงขลาฟอรั่ม กล่าวว่า“สงขลาฟอรั่มในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา มองว่าการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมือง โดยใช้กระบวนการบ่มเพาะให้เยาวชนเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง จากสถานการณ์จริงที่เยาวชนเลือกเอง นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญในการพัฒนาคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็กอายุ 14-24 ปี เพราะช่วงนี้เป็นวัยที่เขามีความคิดแบบอิสระเป็นตัวของตัวเอง เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่กล้าเผชิญปัญหาได้เยอะ ขณะเดียวกันก็สามารถเติมเต็มประสบการณ์ และการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา เป็นวัยที่ชอบค้นหาและสร้างบุคลิกภายในตัวตน และเรียนรู้สังคมภายนอกผ่านการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ผู้ใหญ่ และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัว แต่ก็ยังต้องมีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ จะต้องเรียนรู้ความรับผิดชอบ ชั่วดี และจิตสำนึกของการเสียสละเพื่อส่วนรวม…ซึ่งขณะนี้สงขลาฟอรั่มเองก็เดินทางมาเป็นปีที่ 4 มีทั้งหมด 25 โครงการ แบ่งออกเป็น 7 ประเด็น** โดยกลุ่มเยาวชนแต่ละโครงการก็จะพบปัญหาที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการที่พวกเขาได้เผชิญปัญหาจริง ในบริบทการทำงานจริง และได้แก้ปัญหาด้วยตนเอง จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เยาวชนทั้ง 25 โครงการนี้ได้เติบโตทั้งวิธีคิด วิธีทำงาน บางกลุ่มได้ประสบการณ์ตรงกับตัวเอง บางกลุ่มได้บทเรียนในการเข้าไปช่วยแก้ปัญหาของชุมชนอย่างเช่น โครงการ Law Long Beach ปี2 ที่น้องๆ ได้ลงไปเรียนรู้ความเป็นไปของชุมชนสวนกง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ทำให้เขาได้เปิดมุมมองของว่าที่นักกฎหมายให้รับรู้ถึงบริบทของสังคมผ่านสถานการณ์ปัญหาที่ชุมชนประสบอยู่ ขณะเดียวกันก็เป็นการเติมเต็มความรู้ด้านกฎหมายที่จะช่วยให้ชุมชนมีทางเลือกในการต่อสู้กับปัญหาที่เผชิญอยู่ เป็นต้น นอกจากนี้การทำงานในแต่ละปีเราก็ได้มองเห็นทิศทางการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับสถานศึกษาและเครือข่ายต่างๆ ในพื้นที่มากขึ้นด้วยไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมงานกับโครงการบัณฑิตอาสา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เครือข่ายมหาวิทยาลัยในพื้นที่ และองค์กรเอกชนที่ขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาเด็กเยาวชนในจังหวัดสงขลา โดยในปีหน้านี้ สงขลาฟอรั่มยังมุ่งมั่นที่จะบ่มเพาะเยาวชนเหล่านี้ให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ เป็นพลเมืองที่พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชน สังคม และประเทศไทยให้เข้มแข็งต่อไป”

%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%98%e0%b8%b2

 

นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา กล่าวเปิดงานความตอนหนึ่ง ว่า“…ผมในฐานะที่เป็นผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีความยินดีที่จะเข้ามาสนับสนุนโครงการฯนี้ เพราะถือว่า “เยาวชน” นั้นคือความหวังของประเทศ พลังของเยาวชนยังมีอีกยาวไกลและเป็นอนาคตในวันข้างหน้า เพื่อที่จะเข้ามาจัดการ-ดูแลชุมชนสังคม และประเทศในวันข้างหน้า ดังนั้นการปลูกฝังเรื่องจิตสำนึกพลเมืองให้กับเยาวชนและชุมชนเท่ากับว่าเราได้สร้างสิ่งดีๆให้กับประเทศชาติต่อไปในอนาคต…”

%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b8%a8%e0%b8%a8%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b5-%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%87%e0%b8%a9%e0%b9%8c-2

ดร.นพ.ไพโรจน์  เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิต สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า “…โครงการ Active citizen ตลอดระยะเวลา 3  ปีที่ผ่านมา กับการสร้างพลังเยาวชนที่ทำงานผ่านโจทย์ปัญหาของชุมชนในมุมมองของตัวเยาวชนเอง ไม่ใช่แค่การทำงานเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพียงอย่างเดียว แต่ Active citizen ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างจิตสำนึกพลเมืองให้หยั่งลึกไปในตัวเยาวชน ด้วยวิถีชุมชนและอัตลักษณ์ของชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ สสส.จึงเชื่อว่าพลังสร้างสรรค์ของเหล่าเยาวชน หรือ Active Citizen จะนำไปสู่การร่วมสร้างประเทศไทยน่าอยู่  ร่วมจุดประกายแนวคิดสู่เส้นทางการสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมาใส่ใจผู้อื่น และพร้อมใช้วิชาความรู้และศักยภาพที่ตนมีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคม ตลอดจนปลูกฝังค่านิยมของการเสียสละและมีจิตอาสาเพื่อสร้างพลังในการพัฒนาประเทศให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป”

 20161218_songkla_pic_img_9273

นางปิยาภรณ์  มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)ได้กล่าวย้ำถึงการสร้างพลเมืองรุ่นใหม่ว่า เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้วที่มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนโครงการ Active Citizen ที่มีจุดเริ่มต้นที่จังหวัดสงขลา ด้วยการทดสอบ “แนวคิด”การทำงาน ว่า ถ้ามูลนิธิฯ เข้าไปหนุนกลุ่มคนที่เรียกว่าเป็น Active Citizenที่มีความห่วงใยบ้านเมือง มีความรู้ความเข้าใจในชุมชน หรือจังหวัดของตัวเอง มีเครือข่ายการทำงานในจังหวัด ให้ทำหน้าที่ “สร้างคน” ด้วยการหนุนให้เขาเป็นพี่เลี้ยง (mentor) เพื่อพัฒนาเด็กเยาวชนคนหนุ่มสาวในจังหวัด โดย “เปิดโอกาส” ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ และเข้าใจชุมชน เหมือนคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เพราะมูลนิธิฯ เชื่อว่า หากเขาได้มีโอกาสได้ทำงานเพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาให้ชุมชน สิ่งนี้จะช่วยทำให้เด็กเยาวชน และคนหนุ่มคนสาวได้ประสบการณ์ชีวิต เกิดความเข้าใจในชุมชนตนเอง และค่อย ๆ เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงตัวเองเข้าถึงชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ ซึ่งน่าจะเป็น “โมเดล” ที่ดีในการพัฒนาคนในจังหวัด…โดยผลจากการทดลองที่สงขลา มูลนิธิฯ พบว่า กระบวนการนี้ได้ผลดี เพราะนอกจากจะทำให้เด็กเยาวชนและคนหนุ่มสาวได้มีโอกาสทำงานเพื่อบ้านเกิดของตัวเองแล้ว ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในชุมชนก็ได้รับการเอาใจใ และคลี่คลายลงได้ ที่สำคัญคือ โครงการนี้ยังเป็น “เครื่องมือ” ในการร้อยรัดคนเข้าด้วยกันกับพื้นที่ ซึ่ง “สำนึกความเป็นพลเมือง” จะเกิดขึ้นตรงนี้ เพราะคนเราทุกคนล้วนผูกพันกับถิ่นเกิด แต่ด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆ ทำให้หลงลืมและมองข้ามไป แต่ถ้าเขามีโอกาสได้กลับมามองชุมชนในสายตาที่ละเอียดขึ้น และมีโอกาสที่จะได้ทำงานด้วยการลงมือแก้ปัญหาเอง วิธีการนี้จะ “ปลุกสำนึก” ที่มีอยู่แล้วให้งอกงามยิ่งขึ้น

20161218_songkla_pic_img_9713

เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ปีที่ 4ต่างร่วมเล่าประสบการณ์ และการเรียนรู้ที่ได้จากการทำโครงการ เริ่มจาก …น.ส. มธุรดา ปันวิวัฒน์ (สตางค์ )นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ ตัวแทนเยาวชนจากโครงการ Law Long Beach ศึกษากฎหมายเพื่อคุ้มครองหาดทรายอย่างยั่งยืนปีที่ 2 สตางค์ สะท้อนประโยชน์ที่ได้รับจากการทำโครงการว่า “การที่เราได้ลงพื้นที่ชุมชนทำให้หนูรู้จักรับฟังชาวบ้านมากขึ้น แทนที่เราจะดูแค่ตัวบทหรือตัวอักษรทางกฎหมายเหมือนที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ในชั้นเรียนไม่มี การทำโครงการฯจึงเป็นตัวช่วยขัดเกลาความคิดของเรา ทำให้เราเปิดกว้างมากขึ้น กว้างกว่าการมองแค่สิ่งที่อยู่ในชั้นเรียนเสียอีก”

20161218_songkla_pic_img_9729

ส่วน น.ส. มีสบะห์ นิมะ (บะห์) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์วิทยา แกนนำจากโครงการย้อนรอยยามูบอกว่า“การทำโครงการทำให้เราได้รู้จักสถานที่ต่างๆ ในชุมชนตนเองรู้ที่มาที่ไป ทำให้พวกเรามองเห็นคุณค่า และความสำคัญของบ้านเกิดอีกอย่างกิจกรรมที่นำพาเพื่อนๆ สมาชิกในชุมนุมออกไปเรียนรู้สถานที่ต่างๆ ทำให้นักเรียนเกินกว่าครึ่งในโรงเรียนที่เป็นคนในตำบลยามู ได้รับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์บ้านตนเอง อีกทั้งยังจุดประกายความสนใจเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่นให้กับเพื่อนเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในตำบลยามูอยากจะกลับไปศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ชุมชนตัวเองด้วยเหมือนกัน”

%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%82%e0%b8%991

ด้านรุ่งฤดี หนูม่วง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาหัวหอกสำคัญจากโครงการครูเพื่อศิษย์ เล่าว่า “หนูอยู่โครงการนี้ต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว รู้สึกผูกพันกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ได้ทำงานร่วมกัน แม้จะเรียนรู้มาตลอด แต่ก็รู้สึกว่าความเป็นครูเติมไม่เต็ม สามารถเพิ่มพูนทักษะความสามารถ และเก็บเกี่ยวประสบการหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณความเป็นครูได้เรื่อยๆ ซึ่งปีนี้หนูอาสาสอนพิเศษฟรีให้แก่เด็กด้อยโอกาสหน้าร้านสะดวกซื้อในเมืองสงขลา โดยยอมสละเวลาพักผ่อนของตนเอง ทั้งๆ ที่มีภาระเรื่องการหารายได้เพื่อส่งเสียตนเองในการเรียนระดับมหาวิทยาลัยก็ตามแต่ความรู้สึกที่ได้กลับมานั้น มันมีความตื้นตันใจอยู่ข้างใน …การที่เราเสียสละเวลาวันละชั่วโมงสองชั่วโมงมันมีค่ามากกว่าการไปสอนพิเศษชั่วโมงละร้อยสองร้อยบาทมากมายนัก”

%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a8%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3-12

%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99-1

%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99-4

%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a8%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%81-5

%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a8%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b9%87%e0%b8%81-6

%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%b2-2

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=11967

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us