“หาดทิพย์”แถลงผลการดำเนินงานปี 2566 กำไรโต 38.8% เติบโตต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 5 ปี จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและกลยุทธ์สร้างรายได้ เพิ่มประสิทธิภาพ

“หาดทิพย์”แถลงผลการดำเนินงานปี 2566 กำไรโต 38.8% เติบโตต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 5 ปี จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและกลยุทธ์สร้างรายได้ เพิ่มประสิทธิภาพ

           กรุงเทพฯ 1 มีนาคม 2567 –  บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้รับลิขสิทธิการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จากเดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี (ประเทศสหรัฐอเมริกา) แถลงผลการดำเนินงานประจำปี 2566 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายเท่ากับ 7,806.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 932.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 เทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่เท่ากับ 6,873.5 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ ประจำปี 2566 เท่ากับร้อยละ 7.7 เทียบกับปี 2565 เท่ากับอัตราร้อยละ 6.3 หรือเพิ่มขึ้น 1.4 จุดเปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ตลอดจนกลยุทธ์การสร้างการเติบโตของรายได้และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

             พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจากข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่ากับ 28.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ154.4 จากปี 2565 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 11.1 ล้านคน นอกจากนี้ ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยบ่งชี้ว่าสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างประเทศที่เข้าพักในสถานที่พักแรมในพื้นที่ภาคใต้คิดเป็นอัตราถึงร้อยละ 42.4  ซึ่งสูงกว่าอัตราของทั้งประเทศที่อัตราร้อยละ 21.2  ในส่วนของการดำเนินงาน บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การสร้างการเติบโตของรายได้ ผ่านการกำหนดขนาดและรูปแบบผลิตภัณฑ์ (Pack mix) และ ช่องทางการจำหน่าย (Channel mix) ที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มหันมาบริโภคเครื่องดื่มในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นการบริโภคครั้งเดียว (Single Serve) เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง (HORECA) ตลอดจนร้านสะดวกซื้อที่บริษัทฯมีปริมาณการขายเติบโตเท่ากับ ร้อยละ 46 และ ร้อยละ 19 ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการปรับราคาขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์อัดลมบางบรรจุภัณฑ์ ทำให้โดยรวม ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีราคาเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 และมีการปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 1.5 ในเดือนเมษายน 2566  

             นายอัมริท คุมาร์ เซรสธา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ได้กล่าวเสริมว่าในปี 2566 บริษัทฯ มีต้นทุนขายรวมที่ 4,515.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 เทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่เติบโตขึ้นร้อยละ 8.5 ส่งผลให้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 3,290.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 477.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.0 ช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่กำไรขั้นต้นเท่ากับ 2,813.1 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ยกระดับประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้น  ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการผลิต (Overhead) ลดลง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2565 อันเป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ส่วนต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่าย การบริหาร ตลอดจนต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายทางภาษี นั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามสภาวะของเศรษฐกิจและการลงทุนเพื่อขยายการผลิตของบริษัทฯ ส่งผลให้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิแสดงไว้ในงบการเงินรวมเป็นจำนวน เท่ากับ 598.0 ล้าน เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจำนวน 431.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 167.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ38.8 และมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 7.7 เพิ่มขึ้น 1.4 จุดเปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิที่ ร้อยละ 6.3 ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2566 ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของหาดทิพย์ในการวางแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งนี้บริษัทฯ จะยังคงยึดมั่นในการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนประสานความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรและคู่ค้า เพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องต่อไป

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=86692