|

ชวนหนีเมือง ‘มาบายใจ’ ในเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568 “South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” 28 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 ย่านเมืองเก่าและหาดใหญ่ สงขลา

ชวนหนีเมือง ‘มาบายใจ’ ในเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568 South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” 28 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 ย่านเมืองเก่าและหาดใหญ่ สงขลา

            ​ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ วิกฤตภัยธรรมชาติ และกระแสข้อมูลข่าวสารที่ถาโถมไม่สิ้นสุด ผู้คนเริ่มตั้งคำถามถึงการดำเนินชีวิตและความสุขของตนเอง หลายคนจึงมองหาสถานที่เพื่อให้ร่างกายได้พักและเยียวยาหัวใจให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง การพักผ่อนที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่การบินไกลไปเช็กอินแลนด์มาร์กชื่อดัง แต่คือการได้หยุดหายใจเต็มปอดท่ามกลางความสงบ และคำตอบนั้นอยู่ที่ ‘ภาคใต้ของประเทศไทย’ ภูมิภาคที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ ครบทั้ง ‘เขา ป่า นา เล’ เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมดั้งเดิม อาหารพื้นถิ่นรสแท้ และวิถีชีวิตที่เป็นมิตร พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ลึกซึ้งกว่าที่เคย

            ​ปีนี้ “เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568” หรือ “Pakk Taii Design Week 2025” (PTDW2025) ภายใต้ธีม “South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 7กันยายน 2568 ในจังหวัดสงขลา จะเปลี่ยนย่านเมืองเก่าสงขลาและหาดใหญ่ ให้กลายเป็น ‘Healing Destination’ จุดหมายแห่งการพักใจ เติมแรงบันดาลใจ และฟื้นฟูหัวใจผ่านพลังความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น ‘แพลตฟอร์มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ครบวงจร’ ที่เชื่อมภาคธุรกิจสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และชุมชนท้องถิ่นให้ก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกัน เทศกาลฯ มุ่งต่อยอดอุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของภูมิภาค เช่น อาหารใต้ ศิลปะและงานฝีมือ แฟชั่น ดนตรี และสถาปัตยกรรม โดยนำเสนอแนวคิด ‘เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ’ (De-Stress Economy) ให้ปักษ์ใต้เป็นภูมิภาคแห่งความสุขสำราญ

จุดประกายไอเดียเชื่อมโยงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคใต้

            ​เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่และดำเนินเทศกาลฯ ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้ ที่มีศักยภาพด้านธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ ธุรกิจอาหาร และงานคราฟต์ท้องถิ่น PTDW2025 มอบประสบการณ์การพักผ่อนในมิติใหม่ที่ผสานเสน่ห์ท้องถิ่นเข้ากับพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ โดยนำเสนอโปรแกรมที่ครบทุกมิติของการเยียวยาและฟื้นฟูพลังใจให้ผู้เข้าร่วม ภายใต้แนวคิด “South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน”  เทศกาลฯ ผนึกกำลังทั้ง 14 จังหวัดมาร่วมออกแบบผ่านศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร แฟชั่น ดนตรี และงานออกแบบเชิงสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ สะท้อนศักยภาพของทุนวัฒนธรรมที่พร้อมต่อยอดสู่ซอฟต์พาวเวอร์ระดับภูมิภาค

PTDW2025 นำเสนอ 4 โปรเจ็กต์หลัก ได้แก่

1. South Destress Main Pavilionพาวิลเลียนที่มอบ ‘ความสุข’ ซึ่งเป็นกุญแจสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต ที่ผสมผสานข้อมูลเชิงลึกกับประสบการณ์ที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัส โดยจะพาผู้เข้าร่วมสำรวจ ‘เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ’ (De-Stress Economy) ผ่าน 4 โซนหลัก 1) Pavilion Sabai-D Space พื้นที่พักใจที่ออกแบบให้ทุกคนได้หยุดพัก สูดหายใจลึก ๆ และดึงพลังกลับคืน 2) De-Stress Economy Exhibition นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เทรนด์ และโอกาสทางธุรกิจจากผู้บริโภค 4 กลุ่มหลัก 3) Interactive & Sharing Idea เวทีแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ร่วมกันระหว่างนักสร้างสรรค์ นักธุรกิจ และผู้เข้าชม และ 4) Better Together with South Stakeholder โชว์ผลงานและโมเดลความร่วมมือเชิงนโยบายที่พัฒนาศักยภาพท้องถิ่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

พื้นที่นี้ทำหน้าที่เป็น ‘แผนที่ความสุข’ ที่ชี้ให้เห็นว่าภาคใต้สามารถใช้พลังความคิดสร้างสรรค์เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจที่เยียวยาใจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้อย่างแท้จริง

2. 14 City Potential Spaceพื้นที่โชว์ศักยภาพของ 14 จังหวัดภาคใต้ในมุมมองใหม่ ผ่านงานออกแบบและวัฒนธรรมที่เล่าเรื่อง ‘เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ’ (De-Stress Economy) ด้วย 4 สภาวะประสบการณ์ สะท้อนมุมมองใหม่ของ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่

Moment of Calm – สงบ: ชวนหยุดนิ่งเพื่อพักใจและฟังเสียงตัวเองอีกครั้ง ผ่าน 3ปลายทางแห่งศรัทธาและการเยียวยาที่ถ่ายทอดความสงบอย่างลึกซึ้ง ได้แก่ นราธิวาส โดยกลุ่ม De’Lapae Art Space Narathiwat ถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ DIALOGUE” Ask Yourself ความผูกพันกับบ้านเรือน แม่น้ำ ทะเล และภูเขา ผ่านสายตาศิลปินและนักเล่าเรื่อง พร้อมงานเสวนาและเวิร์กช็อปสะท้อนจิตวิญญาณชายแดนใต้, พังงา โดยกลุ่ม Soul Friend & Spiritual Garden สร้างพลังบวกไปกับนิทรรศการ “เจริญอ่านเภสัช” ร้านหนังสือบำบัดใจควบคู่กิจกรรม Sound Healing ศิลปะ และโยคะ เพื่อคืนสมดุลให้กายใจอย่างแท้จริง และ นครศรีธรรมราช ที่ถ่ายทอดพลังศรัทธาตามแนวคิด “Hip & Holy” ผ่านนิทรรศการ “นครศรีฯ เมืองแห่งศรัทธา” ที่เล่าเรื่องพระบรมธาตุและประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ผ่านศิลปะจัดวาง แสง สี และเสียง ซึ่งรังสรรค์โดย Creative Nakhon เพื่อพาผู้มาเยือนกลับมาสัมผัสความสงบในหัวใจอย่างแท้จริง
The Art of Relaxing – ผ่อนคลาย: ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับศิลปะ ดนตรี อาหาร เวิร์กช็อป และแฟชั่น ที่ทำให้ร่างกายและจิตใจได้พักอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น ยะลา โดยกลุ่ม YALA ICON นิทรรศการ เวิร์กช็อป และแฟชั่นโชว์มุสลิม ศูนย์กลางแฟชั่นมลายูที่สร้างทักษะใหม่และแรงบันดาลใจ, นิทรรศการ “ทำ RICE – ทำไหร๊?” จาก พัทลุง โดย Plural designs ที่เปลี่ยนข้าวให้เป็นวัตถุดิบนวัตกรรม, ตรัง โดย Plural designs นิทรรศการ “ตรัง โอชา – ลิ้มรสตรัง” ที่ชวนมองผู้คนผ่าน ‘มื้ออาหาร’ และเวิร์กช็อป “ตรังโอชา: สัดส่วนหมูย่างตรัง”รวมทั้งนิทรรศการชวนสำรวจเรื่องราวการพัฒนาเมือง ที่ผสานเสน่ห์ดั้งเดิมเข้ากับวิถีร่วมสมัยของ ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวระดับโลก
Place to Energize – ปลดปล่อย: เติมพลังหัวใจด้วยกิจกรรมที่คึกคักและสนุกสนาน ชวนให้คุณได้ปล่อยพลังอย่างเต็มที่ เริ่มจาก สงขลา โดยกลุ่ม Songkhla Pillarนิทรรศการ Mermaid Song.exe” ที่ตีความนางเงือกในมุมใหม่ ต่อด้วย สุราษฎร์ธานี กลุ่ม ART IN PARADISE กับ “Island Frequencies” เทศกาลศิลปะและดนตรีที่เชื่อมโยงพลังของนักสร้างสรรค์จากเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า มาร่วมกันสร้างสีสัน พร้อมจัดเวิร์กช็อปและ Art Installation จากวัสดุ               รีไซเคิล และ กระบี่ กลุ่ม TOMOGRAM STUDIOนำเสนอนิทรรศการ Cave Calls” โลกของภาพเขียนผนังถ้ำโบราณกระบี่ ในรูปแบบ Immersive Mapping เปิดประตูสู่ทริปผจญภัยเชิงธรณีวิทยา ที่ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับความงดงามและกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมริมทะเล
Worry-Free Stage – ไร้กังวล: ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไร้ความกังวล ปราศจากการแข่งขัน และปล่อยใจไปตามจังหวะของตัวเอง ผ่าน 4 ปลายทางสร้างแรงบันดาลใจ ได้แก่ Immersive Exhibition  แรร์นอง”เมืองฝน 8 แดด 4 ของ ระนอง โดย Yimsamer ที่ให้สัมผัสครบทั้งภาพ เสียง กลิ่น และเรียนรู้เรื่องราว สตูล ‘ปลา’ณีต ที่ สตูล โดยกลุ่ม สตูลในใจ กับการถ่ายทอดภูมิปัญญาประมง, “WAQAF Pavilion” ของ ปัตตานี จากกลุ่ม MelayuLiving ที่ชวนขบคิดถึงปรัชญามลายูผ่านสถาปัตยกรรมและการมีส่วนร่วมทุกมิติ และ “ล่องเสียงเล: ดำดิ่งสู่ห้วงเสียง แห่งทะเลชุมพร” ของ ชุมพร โดย Hear & Foundนิทรรศการเสียงที่ชวนดำดิ่งสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์

3. South Market – Creative Market โดย CEA ที่ไม่ได้เป็นเพียงตลาดสร้างสรรค์ แต่ยังเป็น ‘พื้นที่ทดลอง’ ที่รวบรวมผู้ประกอบการจากทั่วภาคใต้มาเจอกัน ตั้งแต่อาหารพื้นถิ่นรสแท้ แฟชั่น งานคราฟต์ ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพ ที่ลานจอดรถย่านเมืองเก่าสงขลา นอกจากนี้ยังมี หลาดดาษดื่น ตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์และงานศิลปะของนักสร้างสรรค์ชาวปักษ์ใต้ ที่ถนนยะลา ตรอกข้างบ้านสงครามโลก, ตลาดชุมชนมัสยิดบ้านบน และ หลาดลุ่มเล เมนูเทสใต้ ตลาดนัดเฉพาะกิจ-จริตแบบใต้ตะโกน ที่วัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร

4. South Special Collaboration – เวทีของ ‘พลังความร่วมมือ’ ที่สามารถเปลี่ยนทุกความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นจริง โดยเปิดโอกาสให้นักออกแบบและนักสร้างสรรค์จากภาคใต้ทำงานร่วมกับมืออาชีพทั้งในและต่างประเทศ เช่น George Town Festival 2025 (GTF2025) จากประเทศมาเลเซีย การแสดงพิเศษจากวงดนตรี Culture Shot (a.k.a la la li la tam pong)” ที่ผสมผสานเครื่องดนตรีร่วมสมัยจีน อินเดีย และมลายูเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สร้างสรรค์เสียงดนตรีอันน่าหลงใหลที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้จัดแสดงในงาน GTF2025 เป็นครั้งแรก พร้อมการแลกเปลี่ยนมาจัดแสดงต่อที่เทศกาลฯ ในวันที่ 6 กันยายน 2568, เมืองคือผู้คน ผู้คนคือเมือง” จาก Phayanchana นิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวของงานป้ายประติมากรรม ‘เมืองเก่าสงขลา’ นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชน เช่น โชว์เคส “สายอาร์ต: Wire Art Songkhla” โดย AIS 3BB FIBRE3 ร่วมกับ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) สงขลา และชุมชนบ้านกอร์ตานี เปลี่ยน E-Waste สู่เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์และผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นของย่านเมืองเก่าสงขลา, “Tea House Museum จิบชายามค่ำ” ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ชมนิทรรศการประวัติศาสตร์ในถ้วยชา พร้อมเสพมหรสพในบ้านคหบดีจีน ในวันที่ 5 – 6 กันยายน 2568 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา, ขวดโค้กยักษ์” จากหาดทิพย์ พื้นที่จุดประกายศิลปะใจกลางเทศกาลฯ รวมถึงสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและสัมมนา (องค์การมหาชน), บริษัท เอปสัน ประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท เชลล์ ประเทศไทย, ฮาตาริ อิเล็คทริค และโบลท์ ประเทศไทย  

​          พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดเทศกาลของชาวหาดใหญ่ ภายใต้โครงการ Festival Creator 2025 ที่ได้รับการสนับสนุนจาก CEA สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล กับเทศกาล “มาหาเสน่ห์ – C’MON SANEHA” โดย Hatyai Connext พลิกฟื้นย่านเสน่หานุสรณ์ หาดใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Saneha Renaissance ปลุกเสน่ห์เก่าให้มีชีวิตใหม่’ ผ่าน 4 จุดหลัก ได้แก่ ห้างโอเดียน ห้างในตำนานของย่านผ่านนิทรรศการเชิงโต้ตอบและการแสดงพิเศษสุดเสน่หาตราตรึง, ถนนเสน่หานุสรณ์ งานออกแบบที่สร้างประสบการณ์ซึ่งกระจายตัวทั่วย่าน,            ลีการ์เดนส์พลาซ่าProjection Mapping บนลานสเกต, อาร์ตแกลเลอรี, เวทีเสวนา, เวิร์กช็อป และตลาดนัดสร้างสรรค์ และตลาดกิมหยง ผ่านการสร้างแบรนดิ้งและบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่โดยผู้ประกอบการกิมหยง  

​           มาสัมผัส ‘ความบายใจ’ ท่ามกลางเสน่ห์เมืองเก่าสงขลาและหาดใหญ่ ที่ทุกซอกซอยมีเรื่องราวให้ค้นหา ทั้งจากอาคารเก่าแก่ที่เล่าประวัติศาสตร์และการจัดแสดงร่วมสมัย, เสียงดนตรีสดที่ผสมคลื่นทะเลกับจังหวะวงพื้นบ้าน, รสชาติอาหารใต้จัดจ้านในตลาดสร้างสรรค์ ไปจนถึงเวิร์กช็อปที่จุดประกายไอเดียให้ชีวิตเปลี่ยนไปใน เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568 หรือ Pakk Taii Design Week 2025 (PTDW2025) กับธีม “South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” วันที่ 28 สิงหาคม – 7กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. ณ ย่านเมืองเก่าสงขลาและหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เทศกาลฯ ที่ไม่เพียงจัดขึ้นเพื่อคนทำงานศิลปะหรือออกแบบ แต่คือ ‘พื้นที่ของทุกคน’ ที่อาจทำให้คุณได้ค้นพบจังหวะชีวิตใหม่ ปล่อยหัวใจให้ได้พักอย่างแท้จริง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pakktaiidesignweek.com, FB/IG: pakktaiidesignweek

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=100758

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us