“วิ่งถวายความอาลัย จากใจคนด้ามขวาน” 1,000 กิโลเมตร

หยดน้ำรวมกันเป็นทางน้ำเล็กๆ แล้วไหลรวมกันเป็นแม่น้ำในที่สุด นักวิ่งเป็นดั่งละอองน้ำ ที่รวมกันเพื่อแสดงความรักความอาลัยต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

นักวิ่งภาคใต้รวมใจวิ่ง “วิ่งถวายความรักความอาลัย จากใจคนด้ามขวาน” เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 เวลา 07.59 น. ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หน้าสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ พระราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี ผศ.วศิน สุวรรณรัตน์ รองอธิการบดีวิทยาเขตหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานปล่อยตัวในกิจกรรม “วิ่งถวายความรักความอาลัย จากใจคนด้ามขวาน” น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีนักวิ่งจำนวนกว่า 200 คน และนักวิ่งทุกชมรม จะถึงจุดนัดพบเดียวกัน ในวันที่ 4 ธันวาคม 2559 ที่สนามกีฬาศุภชลาศัย  กรุงเทพมหานครวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 6 โมงเช้า นักวิ่งจากทั่วทุกภาคและนักวิ่งชมรมต่างๆ ใน กทม.วิ่งจากสนามกีฬาศุภชลาศัยไปยังท้องสนามหลวง และเข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ณ ในพระบรมมหาราชวัง

นักวิ่งตัวแทนจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย 1. นายเจริญ คังฆะคะโร  2. ว่าที่ ร.อ.ถาวร สถาพรศุภพงษ์  3. นายสุนทร สงสัย  4. นายโกศล พูนนวล  5. นายนิพนธ์ สุวรรณ์  6. นายวงค์ มะโมมะยา  7. นายชูศักดิ์ มั่งทองคำ  8. นายพ่วง อวะภาค  9. นายวิบูลย์ อุณรัตนวงค์ ที่จะวิ่งมุ่งหน้าไปยังท้องสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง และไปรวมตัวกับนักวิ่งจากจังหวัดต่างๆ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 9,999 คน เพื่อร่วมสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในพระบรมโกศ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ส่วนที่เหลือจะร่วมวิ่งผลัดคนละ 9.9 กิโลเมตร เมื่อถึงชุมชนหรือจังหวัดต่างๆ ก็จะมีนักวิ่งในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดวิ่งต่อ ซึ่งตลอดการวิ่งจะมีรถนำขบวนและรถพยาบาล รวมทั้งนักปั่นจักรยานบางส่วนร่วมดูแลนักวิ่งตลอดเส้นทาง

นายวิชัยสิทธิ์ โง้วเจริญไพศาลสิน ประธานชมรมกีฬาผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เพื่อแสดงถึงความรักที่มีต่อพระองค์ นักวิ่งชมรมนักวิ่งต่างๆ ทั่วประเทศ จึงได้ร่วมกันวิ่งจากพื้นที่จังหวัดตนเองไปยังสนามหลวงในนาม“เครือข่ายสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย” ในส่วนของ จ.สงขลา ชมรมกีฬาผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา ได้รับเกียรติให้เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการครั้งนี้ ภายใต้ชื่อ “วิ่งถวายความรักความอาลัย จากใจคนด้ามขวาน” ระยะทาง 999 กิโลเมตร โดยวิ่งผลัดจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ไปยังสนามหลวง

ก่อนการปล่อยตัวนักวิ่งได้ถวายพวงมาลัยสักการะพระราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนก พร้อมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที เพื่อแสดงความอาลัย พร้อมกล่าวคำปฏิญาณตนในการทำความดีเพื่อพ่อ และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เส้นทางวิ่งของนักวิ่งจากหาดใหญ่ เริ่มจากวิ่งจากลานพระบรมรูปฯ ไปทางซ้าย 30 เมตรผ่านวงเวียนหน้าโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ไปออกประตูใหญ่ เข้าสู่ถนนศุภสารรังสรรค์ถึงถนนราษฎร์ยินดี เลี้ยวซ้ายวิ่งไปประมาณ 50 เมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนประชาธิปัตย์ วิ่งผ่านโรงเรียนสุวรรณวงค์ ผ่านข้างโรงแรมลีการ์เดนท์ พลาซ่าถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 เลี้ยวขวาไปทางตลาดกิมหยง เลี้ยวขวาไปตามถนนเพชรเกษม วิ่งผ่านหอนาฬิกาตลาดสดพลาซ่า วิ่งผ่านวงเวียนน้ำพุเข้าถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 ผ่านสนามกีฬากลางจิระนคร ข้ามทางรถไฟสี่แยกโรงปูน วิ่งผ่านหน้าห้างบิ๊กซีถึงสี่แยกคลองแห เลี้ยวซ้ายวิ่งเข้าถนนลพบุรีราเมศวร์วิ่งขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟไปถึงสามแยกท่าท้อนเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปตาม ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4)บ่ายหน้าไปพัทลุง เป้าหมาย  กรุงเทพมหานครฯ

แวะรับหัวใจคนไทยตลอดเส้นทางไปถวายสักการะฯในการวิ่งครั้งนี้ เพื่อให้นักวิ่งเข้าถึง กทม.ได้อย่างปลอดภัย นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิต่างๆ ร่วมดูแลความปลอดภัยให้นักวิ่งแล้ว มีการพักค้างคืนระหว่างทาง  และการต้อนรับจากชมรมวิ่งจังหวัดต่างๆโดยทางสมาพันธ์ฯ ได้คำนึงถึงระยะทางความเร็วในการวิ่งและการต้อนรับเมื่อผ่านเข้าไปยังจังหวัดต่างๆมาให้กำลังใจ โดยให้นักวิ่งพักค้างคืนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและจัดเลี้ยงอาหาร อย่างไรก็ตามนักวิ่งจะต้องวิ่งโดยเฉลี่ย 110 กิโลเมตร/วัน ในช่วง 3 วันแรก จะต้องทำความเร็ว เมื่อใกล้ กทม.แล้วคงผ่อนความเร็วลงบ้าง

ในการวิ่ง จะมีเพื่อนักวิ่งร่วมวิ่งคลอไปด้วยจนถึงถนนลพบุรีราเมศวร์ช่วง 3 แยกท่าท้อน จากนั้นนักวิ่งก็จะทำความเร็วและผลัดกันวิ่งคนละ 10 กิโลเมตร โดยประมาณ ขึ้นอยู่กับความราบเรียบลาดชันของเส้นทาง ซึ่งจะมีนักวิ่งผู้ที่จะลงผลัดคนต่อไปปั่นจักรยานตามหลัง

สถานที่พักค้างคืน 8 แห่ง ในการวิ่ง 9 วันได้แก่คืนวันที่ 27 พ.ย. พักที่ พัทลุงคืนวันที่ 28 พ.ย. พักที่ ทุ่งสงนครศรีธรรมราช  วันที่ 29 พ.ย. พักที่ สุราษฎร์ธานีคืนวันที่ 30 พ.ย. พักที่ ชุมพร -คืนวันที่ 1 ธ.ค. พักที่ ประจวบคีระขันธ์คืนวันที่ 2 ธ.ค. พักที่ หัวหินคืนวันที่ 3 ธ.ค. พักที่ สมุทรสงครามคืนวันที่ 4 ธ.ค. พักที่ สนามกีฬาศุภชลาศัย  กรุงเทพมหนครวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 6 โมงเช้า นักวิ่งจากทั่วทุกภาคและนักวิ่งชมรมต่างๆ ใน กทม.วิ่งจากสนามกีฬาศุภชลาศัยไปยังท้องสนามหลวง และพักเพื่อจัดเปลี่ยนชุดจัดขบวนนักวิ่งเพื่อเข้าแถวเข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ด้านประตูวิเศษชัยศรี นักวิ่งยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 89 วินาที จากนั้นก็ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเสร็จแล้วจะกลับสนามกีฬาศุภชลาศัยโดยยานพาหนะของทีมตนเอง เพื่อร่วมกันแปรอักษรสัญลักษณ์ถวายความอาลัยฯ และแยกกันกลับสู่ภูมิลำเนาตนเองในเวลา 11:00 น.

แม่น้ำ 9 สายไหลสู่ พระบรมมหาราชวังเมื่อหยดน้ำรวมกันเป็นทางน้ำเล็กๆ แล้วไหลรวมกันเป็นลำธาร และเป็นแม่น้ำในที่สุด นักวิ่งต่างตระหนักดีว่าตนนั้นไม่ต่างกับอะไรกับละอองน้ำ ที่จะได้จัดตัวรวมกันเพื่อแสดงความรักความอาลัยต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 มิได้มีเพียงจากภาคใต้เท่านั้น ยังมีเพื่อนนักวิ่งๆ จากทั่วทุกภาคของประเทศไทยวิ่งที่วิ่งสู่ พระบรมมหาราชวัง มีนักวิ่งจากต่างภาคต่างพื้นที่ 9 แห่ง ร่วมกับนักวิ่งใน กทม. ที่จะวิ่งไปถวายสักการะพระบรมศพฯ รวมทั้งหมด 9 พื้นที่ คือ ภาคเหนือตอนบน วิ่งจากจังหวัดเชียงใหม่ – สนามหลวง 860 กม. ภาคเหนือตอนล่าง วิ่งจากจังหวัดเพชรบูรณ์– สนามหลวง 375 กม. ภาคอิสานตอนบน วิ่งจากจังหวัดหนองคาย– สนามหลวง 650 กม. ภาคอิสานตอนกลาง วิ่งจากจังหวัดอุบลราชธานี– สนามหลวง 860 กม. ภาคอิสานตอนล่าง วิ่งจากจังหวัดนครราชสีมา– สนามหลวง 170 กม. ตะวันออก วิ่งจากจังหวัดระยอง– สนามหลวง 190 กม. ภาคกลาง วิ่งจากจังหวัดสระบุรี– สนามหลวง 130 กม. ภาคใต้ตอนบน วิ่งจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี– สนามหลวง 670 กม. และภาคใต้ตอนล่าง วิ่งจากจังหวัดสงขลา/ปัตตานี– สนามหลวง 1,000 กม.

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=10808