|

สงขลาเตรียมเปิดทดลองขยายเวลาทำการของด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม 24 ชม.

b407ac8303fb0645b7aa5c8be7d84611_small

จังหวัดสงขลา เตรียมเปิดทดลองขยายเวลาทำการของด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม เป็น 24 ชั่วโมง เที่ยงคืนวันนี้ (17 มิ.ย. 62)

นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม เป็นหนึ่งใน 10 ด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่สำคัญ เมื่อปี 2561 การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย มีมูลค่า 571,927.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.85 ของมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย เมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และกัมพูชา) โดยด่านศุลกากรสะเดาเป็นด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงที่สุดในบรรดาด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งหมด

ในปี 2561 มีมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 376,892.26 ล้านบาท (ส่งออก 172,317.30 ล้านบาท และนำเข้า 204,574.97 ล้านบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ 65.89 ของมูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย และร้อยละ 33.51 ของมูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยที่ผ่านด่านสะเดา ได้แก่ ยางธรรมชาติ เครื่องประมวลผลข้อมูล ส่วนประกอบเครื่องจักร เครื่องสันดาปภายใน และสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องประมวลผลข้อมูล อุปกรณ์เกี่ยวกับการบันทึกเสียง ส่วนประกอบเครื่องจักร เครื่องยนต์สันดาป

ทั้งนี้ แต่เดิมด่านศุลกากรสะเดา เปิดทำการเวลา 05.00 น. และปิดเวลา 23.00 น. (เวลาท้องถิ่นไทย) การขยายเวลาทำการเป็น 24 ชั่วโมง จะมีระยะเวลาทดลอง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน ถึง 16 กันยายน 2562 จะครอบคลุมเฉพาะการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ และประเภทรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถพ่วง โดยจำกัดจำนวนคนบนรถ เพียง 2 คน คือ คนขับรถและผู้ช่วยคนขับรถ ทั้งนี้ได้กำหนดพิธีขยายเวลาทำการด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม ในวันนี้ วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน ระหว่างเวลา 23.00-00.00 น. (เวลาท้องถิ่นไทย)

สำหรับการขยายเวลาทำการของด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม เป็น 24 ชั่วโมง ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกในความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการอำนวยความสะดวกแก่การขนส่งข้ามพรมแดน แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบในการพัฒนาความเชื่อมโยง การค้าและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ต่อไป

การขยายเวลาทำการของด่านศุลกากรสะเดาเป็น 24 ชั่วโมง ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมจากการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 24-25 ตุลาคม 2561 และสะท้อนถึงความร่วมมืออย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทย และรัฐทางภาคเหนือของมาเลเซีย เพื่อให้เกิดความเจริญ ความสงบสุขและเสริมสร้างความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยด้วย

สุธิดา พฤกษ์อุดม สวท.สงขลา

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=42573

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us