|

‘พี่หลวงคร’รวมพลังหาดใหญ่หนุน‘ไพเจน’ ทีม ปชป.สงขลาจ่อฟ้องกลับ‘ผู้การชาติ’

pok83801

การเลือกตั้ง อบจ.สงขลา โค้งสุดท้ายเดือด หลังผู้สมัครนายกหมายเลข2 ยื่นร้อง กกต.สงขลา กล่าวหาหมายเลข3 แจกเสื้อให้ อสม.ด้านเบอร์ 3 เปิดโต๊ะแถลงต่อหน้าประชาชนยืนกรานไม่ผิด พร้อมยันมีหลักฐานชัดเจน ส่วน ‘พี่หลวงคร’ ออกโรงเรียกคะแนนเสียงจากชาวหาดใหญ่ เลือกทีมประชาธิปัตย์ สงขลา

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.63 ที่ลานจัตุรัส หอนาฬิกาหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประชาชนนครหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงหลายพันคนทยอยเดินทางเข้ามา เพื่อรับฟังการปราศรัยหาเสียงของ นายไพเจน มากสุวรรณ์ ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หมายเลข 3 พร้อมทีมผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ทีมประชาธิปัตย์สงขลา โดยก่อนถึงช่วงของการปราศรัย นายไพเจน ได้ตั้งโต๊ะแถลงโต้กลับ กรณีผู้สมัครนายกฯ หมายเลข 2 พันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล จากทีมสงขลาประชารัฐได้เข้าร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา กรณีกล่าวหาว่านายไพเจน ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้มีการมอบเสื้อยืดคอปกให้กับกลุ่ม อสม.หลังจากที่ กกต.ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกฯและสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563

13199560127183

โดยนายไพเจน ได้แถลงโต้กลับคำร้องคัดค้านดังกล่าวว่าเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ซึ่งนายไพเจน ยืนยัน การกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิดต่อกฎหมาย เพราะการมอบเสื้อให้ อสม.ได้มีการมอบให้ก่อนจะมีการประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลักฐานทั้งหมด ซึ่งสืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน 2563 นางพจนีย์ สุวรรณเวหา ประธาน อสม.จังหวัดสงขลา ได้มาขอความอนุเคราะห์เสื้อยืดคอปก เพื่อให้สมาชิก อสม.จังหวัดสงขลาทั้งหมดใช้สวมใส่ในการเข้าร่วมประชุมอบรม ต่อมาได้มีการรวบรวมพรรคพวกที่มีจิตศรัทธาเพื่อร่วมกันสมทบทุนในการจัดซื้อเสื้อยืดมอบให้ อสม.ตามที่ขอความอนุเคราะห์มาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ที่ได้อุทิศกำลังกายกำลังใจในการแก้ปัญหาและป้องกันการแพร่เชื้อโรคระบาด โควิด -19 ตามนโยบายของรัฐบาล จนประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของคนในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก จึงได้ว่าจ้างบริษัทมาสเตอร์พีซ แอนด์ โครเชท์ จำกัด เป็นผู้ผลิตเสื้อยืดให้จนแล้วเสร็จและได้ส่งมอบให้กับประธาน อสม.ทุกอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ได้สวมใส่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียงกันในช่วงวันที่ 7 ถึง 24 ตุลาคม 2563

ดังนั้น ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานดังกล่าวข้างต้นฟังได้อย่างชัดเจนว่าการมอบเสื้อยืดดังกล่าวได้ส่งมอบก่อนมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ออกประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 เมื่อการมอบเสื้อยืดให้กับกลุ่มสมาชิกอสม.จังหวัดสงขลาเป็นการมอบให้ก่อน กกต.กำหนดให้มีการเลือกตั้งการกระทำดังกล่าว จึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ทั้งกรณีลักษณะนี้ กกต.เคยมีคำวินิจฉัยที่ 44
ไว้เป็นบรรทัดฐานว่า เหตุเกิดก่อนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 มีผลใช้บังคับข้อเท็จจริงจึงฟ้องไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิด

ดังนั้นการที่ พ.อ.สุชาติ จันทร์โชติกุล กล่าวหาว่าข้าพเจ้ากระทำความผิดต่อกฎหมายจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าข้าพเจ้ากระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งหรือเพื่อจะแกล้งให้ข้าพเจ้าถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งหรือสิทธิ์สมัครการเลือกตั้ง หรือไม่ให้มีการเลือกตั้งส่งผลให้ข้าพเจ้าได้รับความเสียหายการกระทำดังกล่าวจึงเป็นการร้องเท็จและพ.อ.สุชาติ อาจมีความผิดตามพ.ร.บ.การเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ. ศ.2562 มาตรา 118 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดตั้งแต่ 7 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งข้าพเจ้าจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หลังจากนั้นได้มีการขึ้นเวทีปราศรัยของทีมประชาธิปัตย์เริ่มจากพลตำรวจโท สาคร ทองมุณี หรือพี่หลวงคร ประธานที่ปรึกษาของทีมได้พูดถึงสิ่งสำคัญที่สุดกับวิกฤตในปัจจุบันนี้ไม่ใช่วิกฤตทางการเงินแต่เป็นวิกฤตทางจริยธรรมของนักการเมืองบางคน เพราะฉะนั้นในวันนี้หาดใหญ่กับคนสงขลาทุกคน ต้องเคียงข้างไปกับผู้มีปัญญาต่อด้วย น.ส.สุภาพร กําเนิดผล หรือน้ำหอม รองนายกฯของทีมกล่าวในฐานะผู้นำสตรีของทีมประชาธิปัตย์สงขลาที่อยากเห็นความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในด้านที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพชีวิตการศึกษา ปากท้องและเศรษฐกิจต่างๆ อยากจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด อยากจะขอกำลังใจหากได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด

13199572912138

ด้าน ว่าที่ ร.ต.ไพเจน มากสุวรรณ์ หัวเรือใหญ่ของทีมได้กล่าวถึงเหตุผลที่อยากจะสมัครนายก อบจ.สงขลาในครั้งนี้ คือ อยากจะทำหน้าที่พลิกโฉมจังหวัดสงขลา อยากที่จะพัฒนาจังหวัดสงขลาให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น วันนี้มาที่นี่เพื่อขอยืนยันพี่น้องให้ชัดเจนว่าตนเองมีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างแน่นอนที่จะทำหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อนำความสุข มาสู่พี่น้องชาวจังหวัดสงขลา มีไม่กี่เหตุผลที่เลือกที่จะเข้ามาทำหน้าที่หรือเล่นการเมืองในครั้งนี้ คือ เป็นคนสงขลาโดยกำเนิด อีกหนึ่งประการคือเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ตนมีบุคคลต้นแบบอยู่ท่านหนึ่งที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ท่านได้พูดทุกครั้งว่า“เกิดเป็นคนต้องอย่าลืมแผ่นดินเกิด”เมื่อมีโอกาสต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดินที่ให้เราอยู่อาศัยอย่างสุขสบายคำๆนั้นยังก้องอยู่ในหัวผมตลอดเวลา ฉะนั้นเมื่อผมมีโอกาสแล้วทำไมผมจะไม่ทำและพัฒนาบ้านเกิดของตนเองประการต่อมา คือ เข้าใจปัญหาและรับรู้ความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม

โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องที่สำคัญทั้งสิ้น ตนเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่รับราชการบริหารอยู่ในภาคราชการมา 38 ปี
เป็นผู้บริหารระดับกรมชลประทานและผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยประสบการณ์และความสามารถ ที่จะเข้ามาบริหารทำหน้าที่นายกอบจ.สงขลาได้ทันที จะเห็นได้ว่าทีมที่ปรึกษา ทีมเลขาฯ รองนายกฯ และทีมสมาชิกสภาฯ ล้วนเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถทุกคนอีกประการ คือ การทำงานประสบความสำเร็จได้ สิ่งที่ยึดคือการทำงานเป็นทีม การปรึกษาหารือกับทีมประชาธิปัตย์ว่าทีมงานของเราทุกคนจะต้องมีคุณภาพ มีประสบการณ์และสามารถพูดคุยกันได้ เลยทำให้ตนตัดสินใจที่จะลงสมัครนายก อบจ.ในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าสามารถที่จะขับเคลื่อนทุกนโยบายทำให้เกิดผลที่เป็นจริงได้อย่างแน่นอน โดยมีการคัดกรองและรวบรวมนโยบายที่ ส.จ.ในพื้นที่ได้นำเสนอไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการท่องเที่ยว การฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา การกำจัดขยะ ซึ่งเป็นโยบายที่ทำได้จริงและสามารถทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ได้ สิ่งที่อยากจะนำเรียนเรื่องแรกคือ 1.เรื่องของน้ำ หากได้เป็นนายก อบจ. เมื่อไหร่จะเข้าไปดูแลในเรื่องของน้ำ ไม่จะเป็นเรื่องของน้ำเสีย เรื่องของน้ำทางการเกษตร 2.เรื่องของเศรษฐกิจที่ซบเซาจากสถานการณ์ โควิด-19 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่ ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมและมีชีวิตชีวา เรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการสร้างหอชมเมืองเรื่องของการจราจร ขยายที่จอดรถในอำเภอหาดใหญ่ เรื่องโมโนเรลช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร
“สุดท้ายอยากจะขอฝากหมายเลข 3‘ไพเจน มากสุวรรณ์’ รวมถึงผู้สมัคร ส.อบจ.ของทีมประชาธิปัตย์สงขลาทุกเขตเลือกตั้ง เราจะสามารถดูแลความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสงขลา สามารถพลิกโฉมจังหวัดสงขลาก้าวหน้าและก้าวไกลได้อย่างแน่นอน” นายไพเจน กล่าวทิ้งท้าย

13199572790123

อดีตรองนายกฯทีม ดร.ไพร! นำ”ว่าที่รองนายกหญิง”หาเสียงเบอร์ 3
ย้อนกลับไปดูบรรยากาศในการเดินพบปะประชาชน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563 นายสัมฤทธิ์ บุญรัตน์ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หรือ“รองนุ้ย”สมัย ดร.ไพร พัฒโน ร่วมกับ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล “ว่าที่รองนายกหญิงคนแรกของทีมประชาธิปัตย์สงขลา พร้อม นายประสิทธิ์ ช่วยชูสกุล ผู้สมัคร ส.อบจ.สงขลา เขต 2 อ.หาดใหญ่ ทีมประชาธิปัตย์ ที่มี นายไพเจน มากสุวรรณ์ เบอร์ 3 เดินหาเสียงบริเวณตลาดในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อรณรงค์หาเสียงเชิญชวนประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
ให้เลือก“นายไพเจน เบอร์ 3” บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นายสัมฤทธิ์ เผยว่า สาเหตุที่มาช่วยหาเสียงให้ทีมพรรคประชาธิปัตย์
เนื่องจากตนเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งยังมีความรักและศรัทธาต่อพรรค ประกอบกับตนมีความสนิทสนมกับ“น้องน้ำหอม”ภรรยา ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง หรือ“นายกชาย”มาก่อน และที่สำคัญชอบนโยบายของทีมนายไพเจนในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างจุดขายใหม่ให้หาดใหญ่ เช่น นโยบายหอชมเมืองหาดใหญ่ Skywalk เขาคอหงส์ ฯลฯ
ส.ส.เดชอิศม์ ชี้เวทีปราศรัยผู้การชาติ ชาวสิงหนครเสียหาย
“นายกชาย” นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ ระบุเหตุ “สมพงศ์ สระกวี” อดีตสว.สงขลา ปราศรัยช่วย พ.อ.สุชาติ จันทร์โชติกุล หรือ “ผู้การชาติ” ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ ว่า “ผู้การชาติไปช่วยโกงเลือกตั้งที่เทศบาลเมืองสิงหนคร” นั้นข้อมูลคลาดเคลื่อน ทำให้หลายฝ่ายเสียหาย โดยเฉพาะทหารค่ายเสนาณรงค์ กกต. สงขลา ปลัดเทศบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงยังทำให้เกิดความเสียหายต่อชาวสิงหนครด้วย

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=62425

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us