|

เชฟรอนร่วมกับ หอดูดาวฯ สงขลา และสดร. ร่วมสร้างแรงบันดาลใจนักดาราศาสตร์รุ่นเยาว์ ผ่าน “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล” ต่อเนื่องปีที่ 6

เชฟรอน ร่วมกับ หอดูดาวฯสงขลา และสดร. ร่วมสร้างแรงบันดาลใจนักดาราศาสตร์รุ่นเยาว์ ผ่าน “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล” ต่อเนื่องปีที่ 6

           เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. จัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปี 6” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้สาขาวิชาดาราศาสตร์แก่เยาวชน และจุดประกายความสนใจสู่การเป็นนักดาราศาสตร์ในอนาคต โดยมีเยาวชนทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 100 คน ณ สถาบันทักษิณคดีศึกษา (เกาะยอ) และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา                    นายเฉลิมชนม์ วรรณทอง ผู้จัดการหอดูดาวภูมิภาคอาวุโส หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา กล่าวว่า “’ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล’เป็นค่ายกิจกรรมการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์สำหรับเยาวชนทั่วประเทศที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 โดยปีนี้ได้รับความสนใจจากเยาวชนทั่วประเทศส่งใบสมัครเข้ามาทั้งสิ้น 1,346 คน และคณะกรรมการได้คัดเลือกเยาวชนรวม 100 คน จาก 67 โรงเรียน และจากโฮมสคูล (Home School) ทั่วประเทศ แนวคิดการจัดการค่ายในปีนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายเยาวชนคนดูดาวที่เข้มแข็ง โดยได้คัดเลือกเยาวชนที่เคยผ่านการเข้าค่ายในครั้งก่อนมาร่วมเป็นพี่เลี้ยงค่ายเพื่อช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ โดยหลักสูตรหลักของค่ายเป็นการผสมผสานการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ควบคู่กับกิจกรรมเชื่อมผสานพหุวัฒนธรรม สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมค่าย รวมทั้งเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมชุมชนในพื้นที่ที่ไปจัดกิจกรรมด้วย”

          กิจกรรมของ “ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล”ประกอบไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในเรื่องการดูดาวเบื้องต้น การใช้งานแผนที่ดาวและกล่องดวงดาว การติดตั้งและใช้งานกล้องโทรทรรศน์ โดยเยาวชนผู้เข้าร่วมค่ายฯ ได้ร่วมสังเกตุการณ์ท้องฟ้าและกลุ่มดาวช่วงเช้ามืด ศึกษาดวงอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวหาดสมิหลา และได้เยี่ยมชมท้องฟ้าจำลองและนิทรรศการดาราศาสตร์ ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา นอกจากนั้น ยังได้มีการผสานการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมเข้ากับกิจกรรมต่างๆ อาทิ การทัศนศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา                   นายเดชชนะ ภิญโญตระกูล ผู้จัดการศูนย์ซ่อมบำรุงบนฝั่ง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัดกล่าวว่า “เชฟรอนหวังว่าโครงการนี้จะช่วยในการกระจายโอกาสการเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์ให้แก่เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสในการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ จึงได้สนับสนุนกิจกรรมนี้ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 โดยผมเชื่อมั่นว่าน้องๆ ที่ผ่านค่ายนี้ จะสามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดในการเรียนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน และเชื่อว่าหลายคนจะได้รับแรงบันดาลใจ ในการเลือกเส้นทางการศึกษาต่อเพื่อนำสู่การประกอบอาชีพในฝันของตนเองในอนาคตได้

           “เชฟรอนได้ทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา สงขลา ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 2560 ทั้งการสนับสนุนการก่อสร้างและพัฒนาสถานที่ รวมทั้งร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความตระหนักและส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม ให้กับประชาชนและเยาวชนในจังหวัดสงขลา และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง อาทิ การก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้ทางดาราศาสตร์และการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ นิทรรศการดาราศาสตร์ภายในอาคาร (Indoor Exhibition) โครงการสนับสนุนก่อสร้างลานเอนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรมดูดาวกลางแจ้ง และกิจกรรมทางดาราศาสตร์อื่นๆ เราจะดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งสองหน่วยงานเพื่อสร้างพลังคนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป”             น้องพี – พิพัฒน์พล สิริธิกุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า “ผมชื่นชอบด้านดวงดาวและดาราศาสตร์อยู่แล้ว เวลาออกต่างจังหวัดก็ชอบถ่ายภาพดาวตอนกลางคืน ผมเคยได้ไปร่วมค่ายของ Narit แต่ส่วนใหญ่เป็นค่ายทางวิชาการ ซึ่งแตกต่างจากค่ายในครั้งนี้มาก ค่ายนี้มีเรื่องราวที่เป็นประสบการณ์และความรู้ใหม่หลายอย่าง เป็นค่ายที่มีทั้งความรู้ด้านดาราศาสตร์ควบคู่กับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วย ทำให้ผมรู้สึกประทับใจวิถีวัฒนธรรมของคนใต้มากขึ้น ผมตั้งใจว่าจะนำความรู้และประสบการณ์จากการร่วมค่ายในครั้งนี้ไปจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ในโรงเรียน เพื่อให้น้องๆ เพื่อนๆ ในโรงเรียน ได้หันมาสนใจด้านดาราศาสตร์เพิ่มมากขึ้นครับ”                   น้องแองจี้ – ลภัสปภา สืบสายทองคำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่าส่วนตัวชื่นชอบและตั้งใจอยากจะทำงานในสายที่เกี่ยวข้องกับด้านอวกาศอยู่แล้ว จึงตั้งใจสมัครมาค่ายนี้ และเมื่อได้มาแล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะค่ายนี้ให้ความรู้เยอะมากๆ มีความสนุกสนาน หนูชอบเป็นพิเศษตอนที่ได้ฟังการนำเสนอของวิทยากรที่เป็นวิศวกรของสถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งได้มาถ่ายทอดประสบการณ์และแรงบัลดาลใจตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงทำงาน ซึ่งสิ่งที่วิทยากรบรรยายเป็นความสนใจของหนูโดยตรง สิ่งที่ได้รับจากวิทยากรจึงช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นในการวางแผนการเรียนและทำงานในอนาคตค่ะ”          

           ด้าน น้องโอม – อัสลาน จันทร์ศิริ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ จ.สตูล กล่าวว่า “ผมเคยสมัครมาร่วมค่ายดูดาวปีที่แล้ว แต่ไม่ติด ปีนี้เลยตั้งใจสมัครมาใหม่ เพราะเคยไปร่วมค่ายดาราศาสตร์อิสลามแล้วรู้สึกชื่นชอบมาก ปีนี้เลยตั้งใจเขียนสมัครมาอีกครั้ง รู้สึกดีใจมากที่ได้เข้าร่วม เพราะมาร่วมค่ายนี้ได้ทั้งเพื่อน ได้ทั้งความรู้ ได้รู้จักสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของสงขลามากขึ้น ผมจะกลับไปบอกต่อแนะนำน้องๆ ที่โรงเรียน อยากให้น้องๆ ได้มาค่ายนี้ เพราะค่ายนี้ได้อะไรมากกว่าที่คิดเยอะ และที่สำคัญคือค่ายนี้สร้างแรงบันดาลใจ ให้ผมมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่ชัดเจนในการเลือกเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในด้านดาราศาสตร์มากขึ้น และผมตั้งใจอยากจะเป็นครูด้านดาราศาสตร์ต่อไปในอนาคตครับ”   

          ในส่วนของ น้องเชียร์ – ศิดารัศมิ์ ศรีมุณี นักศึกษา ปีที่ 1 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตหาดใหญ่) ศิษย์เก่าค่ายซึ่งอาสามาเป็น “พี่ค่าย” ช่วยดูแลเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมในปีนี้ กล่าวว่า “ทุกกิจกรรมที่หอดูดาวและเชฟรอนจัดขึ้น ไม่ได้มีแค่เรื่องราวด้านดาราศาสตร์เท่านั้น แต่มีองค์ความรู้และประสบการณ์มากมายให้เราได้ศึกษาเรียนรู้ ครั้งแรกที่หนูมาร่วมกิจกรรมคือค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปี 4 จากนั้นก็มีโอกาสก็ได้มาร่วมกิจกรรมในฐานะ ‘พี่ค่าย’ หรือผู้ช่วยวิทยากร ของค่ายปีที่ 5 และปีนี้ สิ่งที่ได้รับตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือการได้พัฒนาตนเอง ฝึกความกล้าแสดงออก ฝึกความเป็นผู้นำ ได้เรียนรู้การบริหารจัดการงาน การจัดกิจกรรม การวางแผน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมทั้งได้เรียนรู้การทำงานจริงจากคนที่ทำงานจริงในองค์กร ซึ่งประสบการณ์ที่ได้รับสามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนในมหาวิทยาลัยได้ด้วย ต้องขอขอบคุณหอดูดาวและเชฟรอน ที่มอบโอกาสดีๆ ให้เยาวชนคนดูดาวมาอย่างต่อเนื่องถึง 6 ปีค่ะ”

           นอกจากค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปีที่ 6 จะช่วยถ่ายทอดความรู้เพื่อบ่มเพาะต้นกล้าเยาวชนด้านดาราศาสตร์ทั้ง 100 คน ผ่านการจัดกระบวนการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และลงมือปฏิบัติจริงด้านดาราศาสตร์ เป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืนแล้ว ค่ายครั้งนี้ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้และความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ให้แก่เยาวชนได้มากขึ้น เพื่อพัฒนากำลังคนในสาขาสะเต็มที่จะเป็นกำลังในการขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต

 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=90280

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us