ผอ. สสก. 5 สงขลา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
ผอ. สสก. 5 สงขลา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
นายอนุชา ยาอีด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย สสก.5 สงขลา ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และได้รับรายงานพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบในพื้นที่ 8 จังหวัดได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาสจำนวนรวม 63 อำเภอ 437 ตำบล 2,811 หมู่บ้าน จำนวนครัวเรือนเกษตรกรที่คาดว่าจะประสบภัยจำนวน 98,287 ครัวเรือน มีพื้นที่ทำการเกษตรคาดว่าจะเสียหายจำนวน57,950 ไร่ แยกเป็นข้าว 21,543 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 5,728 ไร่ ไม้ผลไม้ผืนต้นและอื่น ๆ30,679 ไร่ (ข้อมูล ณ 20 ธันวาคม 2565) และขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่เกษตรในพื้นที่เข้าไปประสานการให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้เตรียมการสำรวจและช่วยเหลือเกษตรกรรองรับภายหลังน้ำลด ทั้งการลงพื้นที่เพื่อสำรวจพื้นที่ความเสียหาย การเตรียมเชื้อราไตรโคเดอร์มา และการเตรียมผลิตพืชพันธุ์ดี ให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรต่อไป ในส่วนของการดำเนินการสำรวจพื้นที่ความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตพื้นที่ประสบภัย ให้เกษตรกรผู้ประสบภัยแจ้งความเสียหาย (ตามแบบ กษ 01) โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. นายกเทศมนตรี ในพื้นที่ตรวจสอบและรับรองความเสียหาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอตรวจสอบและคำนวณมูลค่าการช่วยเหลือ และดำเนินการประมวลรวบรวมความเสียหายและการช่วยเหลือ เพื่อเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ การเยียวยาเกษตรกรจะเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 โดยมีอัตราการช่วยเหลือดังนี้ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 4,048 บาทต่อไร่ และไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ทั้งนี้ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย มีพื้นที่เสียหายจริง และอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือแล้ว
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=76640