“ร.ร.ดีนูลอิสลาม” เรียนรู้แบบบูรณาการ ร่วมสืบสานตำนานปอเนาะ

“ในอดีตจากวิถีชีวิตแบบเด็กปอเนาะ อยากเห็นสังคมเยาวชนรุ่นหลังมีความพร้อมทางด้านวิชาการ ทั้งศาสนาและสามัญ เพื่อสมดุลในการใช้ชีวิตจริงในยุคสังคมปัจจุบัน โดยไม่ด้อยด้านความรู้ทางโลก เพื่อการใช้ชีวิตในสังคมเทียบเท่าผู้อื่น และมีความสุขกับความรู้ทางธรรม เพื่อชีวิตที่ถาวรในโลกหน้า ดังดุอาร์ของท่านศาสดา ‘โอ้อัลลอฮ ทรงประทานความสุขกับฉันทั้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยเทอญ’ จากความตั้งใจที่อยากเห็นศาสตร์ทั้งสองในเยาวชนมุสลิม จึงเป็นที่มาของปรัชญาทางการศึกษาที่ว่า มาสัมผัสการเรียนรู้แบบบูรณาการ มาร่วมกันสืบสานตำนานปอเนาะ”

นายยะโกบ เสมอภพ ผู้จัดการโรงเรียนดีนูลอิสลาม กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนผ่านการประเมินจากองค์กรภายนอก (สมศ.) 3 ครั้ง และที่ผ่านมาโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมและมีผลงานหลากหลายรูปแบบที่ตอบสนองความต้องการของนักเรียน อาทิ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลาเรียนรู้, ทางโรงเรียนมีการเข้าร่วมโครงการ STEM Education ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.), ทางโรงเรียนมีกิจกรรมที่เน้นทักษะทั้งด้านความรู้และด้านออกกำลัง และกิจกรรมด้านความรู้ นักเรียนจะเรียนรู้คำศัพท์สามภาษาวันละคำกับคุณครูที่สอนทางภาษากับกิจกรรมที่มีชื่อว่า ‘กิจกรรมคำศัพท์สามภาษา’ ไทย อังกฤษ มลายู อีกด้วย

“สำหรับด้านศาสนาด้วยทางโรงเรียนรักษาไว้ซึ่งรูปแบบปอเนาะในอดีต ซึ่งเป็นความต้องการของชุมชน จึงต้องมีปฏิบัติกิจกรรมจริงด้านศาสนา อาทิ พิธีกรรมทางศาสนา ของชุมชนตามเวลาที่ชุมชนต้องการ (งานบุญ, เมาลิด, บุญกุโบว์), การละหมาดญานาซะ (ศพ) ทางโรงเรียนจัดเด็กและรถตามความต้องการ ซึ่งการตายนั้นกำหนดเวลาไม่ได้ แต่เนื่องจากโรงเรียนเป็นโรงเรียนประจำ จะเป็นนอกเวลาเรียนหรือกลางคืนโรงเรียนก็ตอบสนองสังคมได้, กิจกรรมอ่านคุตเบาะตามมัสยิดในวันศุกร์ ทางโรงเรียนบริการรถรับส่งนักเรียนที่ออกไปอ่านคุตเบาะ ศุกร์ละ 4 คน โดยสับเปลี่ยนในมัสยิดกว่า 20 แห่ง ที่ร่วมโครงการ, กิจกรรมละศีลอดพร้อมผู้นำชุมชน โดยเชิญบรรดาอิหม่ามกว่า 20 มัสยิด และชาวบ้านบางส่วนมาละศีลอดพร้อมกันที่โรงเรียน, กิจกรรมเมาลิดิลนาบี โดยเชิญอิหม่ามกว่า 20 มัสยิด พร้อมอ่านชีวประวัติของท่านศาสดาและร่วมรับประทานอาหารพร้อมกัน, ร่วมบรรยายศาสนธรรมกับชุมชนจังหวัดใกล้เคียง กระบี่ พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา, ส่งเด็ก ม.6 ออกฝึกสอนภาคฟัรฎูอีน ในพระบรมราชูปถัมภ์ตามมัสยิดต่างๆ ที่แจ้งตามความต้องการ และร่วมเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ด้านศาสนาในเรือนจำจังหวัดสงขลา 4 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัด, เรือนจำกลาง, ทัณฑสถานบําบัดพิเศษสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา อีกด้วย” นายยะโกบเล่าถึงกิจกรรมด้านต่างๆ ของโรงเรียน

นายยะโกบกล่าวอีกว่า เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่ในชนบทล้อมรอบด้วยชุมชนในสภาพครอบครัวค่อนข้างยากจน จึงขาดสภาพคล่องด้านงบประมาณ และไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมในการผลัดดันเรื่องการศึกษา แต่ในมุมที่เข็มแข็งโรงเรียนยึดมวลชนในการพัฒนาและใช้ระบบครอบครัวในการสร้างมวลชน ชมรมศิษย์เก่าและมวลชนสัมพันธ์รวมหลักสร้างความเข็มแข็งในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนในโครงการต่างๆ เช่น เสริมทักษะกับโครงการคุตเบาะสัญจร ปฏิบัติจริงกับโครงการละหมาดญานาซะ มีจิตเมตตากับโครงการเด็กกำพร้าดีนูลฯ ตลาดอาหารดีนูลฯ วันสุดสัปดาห์ ฝึกสมาธิร่วมกันกับโครงการอัซกัรก่อนเข้าเรียน และอีกหลากหลายโครงการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลาเรียนรู้

ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ คือ 1. รับผิดชอบหน้าที่ในการทำงานโดยยึดหลักการของท่านศาสดา (ซ.ล.) ว่า ‘ทุกคนนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบและทุกคนจะถูกสอบสวนจากหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ’ ทุกหน้าที่จึงมีอุดมการณ์เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะทุกคนศรัทธาในพระดำรัสของอัลลอฮฺว่า ‘ใครทำความดีแค่เพียงเมล็ดงา พระเจ้าก็จะตอบแทน และใครก็แล้วแต่ทำชั่วแค่เพียงเมล็ดงา พระเจ้าก็จะตอบแทน’ โลกจะหมดคอรัปชั่นได้ด้วยเราศรัทธาที่ถูกต้องเท่านั้น 2. สร้างครอบครัวเดียวกันโดยการมีส่วนร่วมกับมวลชนในการปฏิบัติจริงตามหลักศาสนา นักเรียนจะมีจิตสาธารณะและผู้เสียสละเมื่อเขาสัมผัสกับการปฏิบัติจริงกับกิจกรรมศาสนาร่วมกับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการละหมาดญานาซะ กิจกรรมละศีลอดรอมฎอน เป็นต้น ความเป็นกันเองและเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันในการร่วมกิจกรรม สร้างความเป็นพี่น้อง ความรัก ความห่วงใย กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน

3. ส่งเสริมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เพื่ออนาคตเยาวชนห่างไกลความเจริญ ทางโรงเรียนได้จัดตั้งศูนย์เด็กกำพร้า โดยฟรีค่าใช้จ่ายทุกอย่าง รวมค่าอาหารวันละ 3 มื้อ และให้ค่าขนมวันละ 40 บาท เพื่อส่งเสริมสนับสนุนเด็กด้อยโอกาส ปัจจุบันมีเด็กจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 2 ราย จากจังหวัดนราธิวาส 2 ราย และจากจังหวัดสงขลา 1 ราย โดยทางโรงเรียนร่วมมือกับคณะกรรมการสถานศึกษาและหน่วยงานอื่นเพื่อรองรับเด็กกำพร้า 4. ส่งเสริมและมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน เพื่อแนะแนวทางการศึกษาในยุคปัจจุบันผ่านกระบวนการบรรยายธรรมบนเวทีงานศาสนา โดยเป็นวิทยากรบรรยายตามงานมัสยิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแถบจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช สงขลา และสุราษฎร์ธานี เพื่อชี้ทางแก่ผู้ปกครองถึงระบบการศึกษาในยุคปัจจุบัน 5. ส่งเสริมและมีส่วนร่วมด้านการสอนภาคฟัรดูอีนพร้อมกับสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองในการที่จะส่งลูกเรียนสองระบบต่อไป เพราะหวังและเห็นผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่มีผลประโยชน์ทางสังคมและอาคีเราะห์ต่อไป

“ในเวลาที่เหลือของชีวิต อยากเห็นเยาวชนมุสลิมให้ความสำคัญกับการศึกษาและเป็นเยาวชนที่มีความรู้ทั้งศาสนาและสามัญ อยากเห็นมุสลิมมีตำแหน่งในทุกหน่วยงานของรัฐและเอกชน และเป็นประชาชนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมจริยธรรมจากวิชาศาสนาที่ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสองศาสตร์อยู่ในคนๆ เดียวและคนๆ นั้น เป็นผู้รับใช้สังคม รับใช้ประเทศ รับใช้ประชาชน รับใช้เยาวชน ประเทศเรา สังคมเรา น่าจะน่าอยู่ น่าจะเจริญ น่าจะมีความสุข น่าจะรักใคร่ซึ่งกันและกัน และสันติภาพก็จะแพร่กระจายทั่วหน้าแผ่นดิน” นายยะโกบ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับโรงเรียนดีนูลอิสลาม ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลจะโหนง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนฉบับปรับปรุงแก้ไข พุทธศักราช 2559 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีนักเรียนทั้งหมด 245 คน ‘วิชาการดี วินัยเด่น เน้นศาสนา’ คือปรัชญาของโรงเรียน และมีสี ฟ้า – แดง เป็นสีประจำโรงเรียน

 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=17695