‘อนุทิน’นำทัพ”ภูมิใจไทย”เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เชื่อมั่นเลือกตั้งรอบหน้าคว้าเก้าอี้เพิ่ม ท่ามกลางประชาชนแห่ให้กำลังใจนับ 10,000 คน
‘อนุทิน‘นำทัพ“ภูมิใจไทย“เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เชื่อมั่นเลือกตั้งรอบหน้าคว้าเก้าอี้เพิ่ม ท่ามกลางประชาชนแห่ให้กำลังใจนับ 10,000 คน
วันนี้ (28 สิงหาคม 2565) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมคณะผู้บริหารพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)พรรคภูมิใจไทยทั่วภาคใต้ พร้อมหน้าเดินทางมา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ประกอบด้วย เขต 1 นายประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง เขต 2 นายฉัตรชัย ชูแก้ว อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นายไพร พัฒโน อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย และอดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เขต 4 ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ ส.อบจ.สงขลาเขตอ.ระโนด เขต 5 นายอนลอัทธ์ พลธนนินท์ธัญ เขต 7 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อส.ส.สงขลา และ เขต 8 นายวสันต์ ช่างหมาน อดีตผู้สมัคร ส.ส. ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ คือ นายปราโมทย์ แสงอรุณ และ นายณรงค์พร ณ พัทลุง ท่ามกลางประชาชน กว่า 10,000 คน นายอนุทิน กล่าวว่า การทำงานของพรรคภูมิใจไทยเน้นไปที่การตอกเสาเข็มแห่งความเจริญลงในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดสงขลา ที่นี่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นให้ส.ส.พรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วปี 2562 มา 1 ท่าน เป็นโอกาสให้พรรคภูมิใจไทยได้ทำงานรับใช้พี่น้องชาวสงขลา ซึ่งพรรคมีความตั้งใจที่จะพัฒนาสงขลา ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาภาคใต้ และสร้างเมืองหาดใหญ่ให้เป็นเมืองการค้า เมืองท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง พรรคภูมิใจไทย จัดทำโครงการสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาเชื่อมจังหวัดพัทลุง โครงการนี้ ลงทุน 4,829 ล้านบาท ต้องสำเร็จ ภายใน 3 ปีนับจากนี้ไป และจะเป็นพยานรัก ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับชาวสงขลา หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม จัดสรรงบประมาณ 3,615 ล้านบาท มาพัฒนาถนนในสงขลา 57 โครงการ และ วางแผนการพัฒนาการขนส่งทุกระบบของสงขลา ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ไว้อีก 53,813 ล้านบาท ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทุ่มงบประมาณ มาที่สงขลาหลายร้อยล้านบาท เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และสร้างสรรค์กิจกรรมการท่องเที่ยว ให้ฟื้นขึ้นมาจากสถานการณ์การระบาดของโควิด และตั้งเป้าหมาย จะเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาสงขลา มาหาดใหญ่ ให้ได้มากกว่า 7 ล้านคน ในปีหน้า คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาในสงขลาไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท และกระทรวงสาธารณสุข วางแผนพัฒนาให้โรงพยาบาลหาดใหญ่ สงขลา เป็นศูนย์กลางการแพทย์ด้านรังสีรักษา เพื่อให้การรักษาดูแลพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง จุดเด่นของพรรคภูมิใจไทย คือเราเป็นพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ ที่เราทำได้ทำสำเร็จ อาทิ นโยบายกัญชาทางการแพทย์ และสุขภาพ ประเทศไทย จะเป็นผู้นำการศึกษา วิจัย พัฒนา และใช้กัญชาทางการแพทย์สุขภาพ ของอาเซียน และ เอเชีย ซึ่งมีหลายประเทศ มาศึกษา ดูงาน และจะเดินตาม เช่น มาเลเซีย ส่งผลให้ประเทศไทย จะมีรายได้จากอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท
การนำประเทศไทยออกจากสถานการณ์การระบาดของโควิด และ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว ได้เร็วกว่าหลายประเทศ ทำให้ระบบสาธารณสุขไทย เป็นที่ยอมรับของนานาชาติเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว จะมากกว่า 3 ล้านล้านบาท เม็ดเงินจากการลงทุน จะเข้าสู่ประเทศไทย การสร้างรากฐานที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุข ด้วยระบบ สามหมอ และ ให้ความสำคัญกับ อสม. หมอคนที่หนึ่ง เพิ่มค่าตอบแทน และค่าเสี่ยงภัย ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย “ที่ผ่านมาคือการเซ็นสัญญาฉบับแรกและเราทำสำเร็จแล้ว จากนี้จะเป็นการเซ็นสัญญาฉบับ 2 ขอให้ประชาชนมาเลือกพรรคภูมิใจให้มากๆและผลักดันให้เราได้มีโอกาสไปทำงาน เราจะพักหนี้ประชาชน คนไทยทุกคน ดังนี้
1.ได้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบ หยุดต้น ปลอดดอกเป็นเวลา 3 ปีเท่ากับเวลาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด หนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ใช้สิทธิได้ทั้งหมด ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิ ไม่ได้
2. จะผลักดันภาษีบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคน บริษัทห้างร้านทุกบริษัท ที่เสียภาษี มีสิทธิกำหนดให้ภาษีที่ตัวเองจ่าย อย่างน้อย ร้อยละ 30 ถูกนำไปใช้พัฒนาแก้ปัญหาให้กับท้องถิ่นที่ตัวเองต้องการ ระบุ เทศบาล อบต. อบจ. ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน หรือ ที่ตั้งกิจการของตัวเองได้ จะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจ่ายภาษีแล้ว ได้รู้ว่าภาษีของตัวเอง เอาไปใช้ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
3.ไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ “การไฟฟ้าประชาชน” ใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซล ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล จะช่วยทุกครอบครัว ที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาล และลดค่าไฟฟ้า ได้ไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อเดือน ที่สำคัญคือช่วยให้รัฐบาล ลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ลดการนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศ
4.พัฒนา อสม. เป็น สมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็น เดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม. เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของอสม.ต่อไป
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=74225