|

รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ จัดกิจกรรม “วันตับอักเสบโลก” ชูนวัตกรรมเครื่อง “Fibro scan”

IMG_2856

โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ จัดกิจกรรมเนื่องใน “วันตับอักเสบโลก” ชูนวัตกรรมเครื่อง “Fibro scan” ตรวจวินิจฉัยกลุ่มผู้ป่วยโรคตับ พร้อมรณรงค์ให้ความรู้ “ภาวะไขมันพอกตับ” แก่ประชาชน

วานนี้ (16 กรกฎาคม 2560) ที่ ลานกิจกรรมชั้น 2 โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ นำโดย นพ.อรุณ กิจมหาตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ จัดกิจกรรมเนื่องในวันตับอักเสบโลก โดยทางโรงพยาบาลฯ ได้เล็งเห็นว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยมีผู้ป่วยเป็นไขมันพอกตับจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ไขมันสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อ้วน โรคหัวใจ มีโอกาสเกิดไขมันพอกตับ 90% และ กลุ่มนี้ยังพบตับอักเสบถึง 20% ซึ่งไขมันพอกตับเป็นสาเหตุของตับอักเสบมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้

IMG_2853

โดยทางศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ มีนวัตกรรมต่างๆ ทั้งเครื่องวินิจฉัย ยารักษา และการตรวจต่างๆ ในกลุ่มผู้ป่วยโรคตับที่ได้ผลดีมากขึ้น โดยมีการตรวจวินิจฉัยและติดตามอาการไขมันพอกตับ ผังพืดในตับ ด้วยเครื่อง Fibro scan

IMG_0501

ทั้งนี้ เนื่องในวันตับอักเสบโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี ทางศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.ธีระ พิรัชวิสุทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคตับระดับนานาชาติ หนึ่งในผู้ผลักดันที่ส่งเรื่องผ่านองค์การอนามัยโลกให้เกิดวันตับอักเสบโลก เสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับกับภาวะไขมันพอกตับ เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นสาเหตุที่นำไปสู่โรคมะเร็งตับ และเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนอีกด้วย

IMG_0503

โดยสาเหตุของภาวะไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มสุรานั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด จากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า ภาวะที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลินเป็นปัจจัยที่สำคัญของการเกิดภาวะภาวะไขมันพอกตับ เกิดการอักเสบและการตายของเซลล์ เรียกว่า Insulin Resistant Syndrome หรือ Metabolic Syndrome ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการต่อไปนี้ร่วมด้วย คือ 1. ความอ้วน ซึ่งมักจะอ้วนเฉพาะส่วนลำตัวมากกว่าแขนขา 2. เป็นเบาหวาน 3. มีไขมันในเลือดสูง 4. มีความกดดันโลหิตสูง ซึ่งพบว่ามกกว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับ จะมีภาวะดื้อต่ออินซูลินร่วมด้วย

IMG_0504

สำหรับการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเป็นภาวะไขมันพอกตับ คือ การลดน้ำหนัก ในกรณีที่ผู้ป่วยอ้วน ซึ่งควรลดน้ำหนักโดยการควบคุมปริมาณและคุณภาพอาหาร หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมากเกินไป ควรทานอาหารประเภทปลา เนื้อแดงไม่ติดมัน ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ การปรุงอาหารควรเป็นแบบนึ่งหรือต้ม หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวาน ควรทานฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว สตอเบอร์รี่ เป็นต้น

IMG_2875

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=18973

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us