|

เรือนจำสงขลา เปิดปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกรณีพิเศษ หาสิ่งผิดกฎหมาย – สิ่งของต้องห้าม

79136857_2641037039309845_2139322364029042688_o

เรือนจำจังหวัดสงขลา นำเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง เปิดปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกรณีพิเศษตั้งแต่รุ่งสาง เพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งของต้องห้าม พร้อมสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง 495 คน หาสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย

วันนี้ (26 พ.ย. 62) เวลา 05.45 น. ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา นายปรีชา บุญโรจน์พงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พร้อมด้วยนายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา นำเจ้าหน้าที่จากทัพเรือภาคที่ 2 สงขลา กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 จังหวัดสงขลา ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5, ตำรวจภูธรเมืองสงขลา, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 และชุดปฏิบัติการพิเศษเขต 9 สนธิกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษเรือนจำจังหวัดสงขลาตั้งแต่รุ่งสาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในสังกัดร่วมปฏิบัติการตรวจค้นอย่างเข้มข้นและการดำเนินงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย

76762513_2641037082643174_3778425112752029696_o

นายปรีชา บุญโรจน์พงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันยังมีการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น เป็นภัยสังคม คุกคามต่อการพัฒนาประเทศและความสงบสุขของสังคม นำไปสู่ปัญหาการก่ออาชญากรรมต่างๆ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ ผลจากการเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วนของรัฐบาล ทำให้มีการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งผู้เสพและผู้ค้าได้เป็นจำนวนมาก รัฐบาลจังได้กำหนดเป็น “วาระแห่งชาติ” ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด อีกทั้งเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องเข้ามาร่วมมือกันแก้ไข ประสานงานติดต่อสื่อสารที่จะเชื่อมโยงประสานความร่วมมือกันอย่างจริงจัง

74472769_2641037049309844_5275093663469273088_o

ด้าน นายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดสงขลาได้ดำเนินการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่มีนโยบายมอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือให้หมดสิ้นไปจากเรือนจำและทัณฑสถานโดยเร็ว ตามนโยบาย 5 ก้าวย่างการเปลี่ยนแปลงราชทัณฑ์ ก้าวย่างที่ 1 : ควบคุมปราบปรามยาเสพติด โทรศัพท์มือถือและสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำและนโยบายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ 3 ส. 7 ก.โดยให้ดำเนินการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

77369258_2641037319309817_791909231132409856_o

สำหรับการจู่โจมตรวจค้นในครั้งนี้เพื่อให้เรือนจำทุกแห่งดำเนินการปราบปรามยาเสพติด โทรศัพท์มือถือและสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนจำไม่ให้มีการลักลอบเข้ามา หรือมีไว้ภายในเรือนจำอย่างเด็ดขาด โดยให้เรือนจำทำการจู่โจมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรือนจำจังหวัดสงขลามีภารกิจด้านการควบคุมผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด บางคนอาจมีอิทธิพลด้านการเงินและมีเครือข่ายภายนอกเรือนจำอาจลักลอบ ใช้เรือนจำเป็นฐานในการสั่งซื้อ-ขาย ยาเสพติดโดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์สื่อกลางในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอกเรือนจำ

78478150_2641037149309834_4483170976204324864_o

ซึ่งผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้แยกย้ายเข้าค้นเรือนนอน ตู้เก็บสิ่งของและอาคารสถานที่ภายในเรือนจำอย่างละเอียดแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสุ่มตรวจปัสสาวะในกลุ่มผู้ต้องขัง จำนวน 495 คน เพื่อหาสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติด ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดสงขลา มีผู้ต้องขัง จำนวน 2,706 คน

79169788_2641037202643162_7122119494138331136_o

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด /ข่าว/ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

26 พ.ย. 62

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=49451

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us